![]() |
ผลการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษาโดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือที่มีต่อทักษะกีฬาแฮนด์บอลและการทำงานเป็นทีมของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | จิรวัฒน์ วงศ์ชุมภู |
Title | ผลการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษาโดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือที่มีต่อทักษะกีฬาแฮนด์บอลและการทำงานเป็นทีมของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 |
Contributor | สุธนะ ติงศภัทิย์, บัญชา ชลาภิรมย์ |
Publisher | Thailand National Sports University |
Publication Year | 2565 |
Journal Title | Academic Journal of Thailand National Sports University |
Journal Vol. | 14 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 199-212 |
Keyword | การจัดการเรียนรู้, เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ, การแข่งขันระหว่างกลุ่มเกม, การทำงานเป็นทีม, ทักษะพื้นฐานกีฬาแฮนด์บอล |
URL Website | https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TNSUJournal/index |
Website title | เว็บไซต์วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ |
ISSN | Print 2673-0952 Online 2697-5793 |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้พลศึกษาโดยใช้การจัดการเรียนรู้ร่วมมือประเภทการแข่งขันระหว่างกลุ่มเกมที่มีต่อทักษะพื้นฐานกีฬาแฮนด์บอลและทักษะการทำงานเป็นทีมของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานกีฬาแฮนด์บอลและทักษะการทำงานเป็นทีมระหว่างนักเรียนโดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแข่งขันระหว่างกลุ่มเกม และนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเมืองชุม จำนวน 36 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มทดลอง จำนวน 18 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 18 คน เครื่องมือในวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้พลศึกษากีฬาแฮนด์บอลโดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแข่งขันระหว่างกลุ่มเกม จำนวน 8 แผน ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.96 และ 2) แบบประเมินการทำงานเป็นทีมที่มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.86 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1) ค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังการทดลองนักเรียนกลุ่มทดลอง และนักเรียนกลุ่มควบคุมมีทักษะพื้นฐานกีฬาแฮนด์บอลแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) ค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังการทดลอง นักเรียนกลุ่มทดลองมีทักษะการทำงานเป็นทีมสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |