|
แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) ด้วยระบบ e-service ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Title | แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) ด้วยระบบ e-service ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม |
| Creator | ธัชพรรณ แก้วกัลยา |
| Contributor | u0e01u0e21u0e25u0e1eu0e23 u0e2au0e2du0e19u0e28u0e23u0e35, u0e17u0e35u0e48u0e1bu0e23u0e36u0e01u0e29u0e32 |
| Publisher | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
| Publication Year | 2567 |
| Keyword | การให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์, คุณภาพการให้บริการ, E-service, Service quality, SERVEQUAL |
| Abstract | การศึกษาเรื่อง แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) ด้วยระบบ e-Service ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาคุณภาพการบริการในการให้การรับรอง GAP ที่เปลี่ยนแปลงไปจากการนำระบบ e-Service มาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อวิเคราะห์ปัญหาในการใช้ระบบ e-Service ในการจัดการงานด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) ให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน และเพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการจัดการด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) กรณีการใช้ระบบ e-Service ให้มีประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐที่ดียิ่งขึ้นผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยแบบควบคู่ทั้งรูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลประชากรผู้ใช้บริการด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตรทั้งในช่วงก่อนและภายหลังการนำระบบ e-Service มาใช้ และใช้เกณฑ์การประเมินคุณภาพการให้บริการด้วย SERVEQUAL แจกแจงผลลัพธ์ตาม 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ความเป็นรูปธรรมของบริการ 2) ความเชื่อมั่นไว้วางใจได้ 3) การตอบสนองต่อผู้รับบริการ 4) ความน่าเชื่อถือ 5) การเข้าใจและรู้จักผู้รับบริการ ใช้สถิติเชิงอนุมาน (Paired Sample T-Test) เพื่อเปรียบเทียบระดับคุณภาพการให้บริการว่าดีขึ้นหรือไม่อย่างไร และผู้วิจัยได้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) ตามกลุ่มตัวอย่างที่มีความเกี่ยวข้องกับงานบริการระบบ e-Service ด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตร ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้บริหารด้านการบริหารงานนโยบาย 2) ผู้ออกแบบและพัฒนาระบบบริการดิจิทัล 3) เจ้าหน้าผู้ใช้งานระบบบริการ เพื่อแก้ไขประเด็นปัญหาและอุปสรรคจากการใช้งานระบบ e-Service และนำไปสู่แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการจากผลการศึกษาพบว่า คุณภาพการให้บริการภายหลังการนำระบบ e-Service เข้ามาใช้ในงานด้านการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตรมีระดับคุณภาพการให้บริการตามเกณฑ์ทั้ง 5 องค์ประกอบมีทิศทางที่ดีขึ้น และประเด็นปัญหาหรืออุปสรรคในการใช้งานระบบ e-Service สามารถดึงประเด็นปัญหาร่วมที่มีความคล้ายกันกับผลการศึกษาเชิงคุณภาพ ได้แก่ ด้านโครงสร้าง อำนาจ และหน้าที่ ด้านงบประมาณ ด้านบุคลากร และด้านทรัพยากร นำมาสู่ข้อเสนอแนะในรูปแบบแผนการพัฒนาระบบ e-Service ในระยะสั้นที่มุ่งเน้นการพัฒนาในด้านบุคลากรในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทักษะทางดิจิทัล เพื่อให้ผู้ให้บริการมีความสามารถในพัฒนาและใช้งานระบบ e-Service ให้ดียิ่งขึ้น และเกษตรกรผู้รับผลประโยชน์จากการให้บริการของระบบ e-Service จะได้รับการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลในการใช้บริการภาครัฐดิจิทัล และด้านงบประมาณมีแผนในการพัฒนาให้เกิดการวางแผนการดำเนินงานที่รอบคอบและมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงการที่มีการพัฒนางานสู่ระบบดิจิทัล เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปสู่องค์การดิจิทัล และแผนการพัฒนาระบบ e-Service ในระยะยาว มีการมุ่งเน้นในการพัฒนาด้านการจัดสรรทรัพยากรทางดิจิทัลให้เพียงพอต่อการใช้งาน และมีการวางมาตรการเพิ่มความปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ และด้านโครงสร้าง อำนาจและหน้าที่ได้เสนอให้มีการประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับโครงสร้างหรือกระบวนงานให้มีความยืดหยุ่นและมีความพร้อมในการรองรับการให้บริการดิจิทัล |
