การศึกษาเปรียบเทียบค่าความดันลูกตาระหว่างการวัดด้วย เครื่องวัดความดันตาชนิดไม่สัมผัสตา (Non-Contact Tonometry) และ เครื่องวัดความดันลูกตาชนิดโกลด์แมนน์ (Goldmann Applanation Tonometry) ในผู้ป่วยโรคต้อหินโรงพยาบาลอ่างทอง
รหัสดีโอไอ
Creator กอบกาญจน์ ธงทอง
Title การศึกษาเปรียบเทียบค่าความดันลูกตาระหว่างการวัดด้วย เครื่องวัดความดันตาชนิดไม่สัมผัสตา (Non-Contact Tonometry) และ เครื่องวัดความดันลูกตาชนิดโกลด์แมนน์ (Goldmann Applanation Tonometry) ในผู้ป่วยโรคต้อหินโรงพยาบาลอ่างทอง
Publisher โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
Publication Year 2565
Journal Title วารสารวิชาการแพทย์เขต11
Journal Vol. 36
Journal No. 2
Page no. 1-12
Keyword ความดันลูกตา, เครื่องวัดความดันตาชนิดไม่สัมผัสตา, เครื่องวัดความดันลูกตาชนิดโกลด์แมนน์, ต้อหิน
URL Website https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Reg11MedJ/index
Website title ThaiJo
ISSN 2730-3365 (Online)
Abstract บทคัดย่อวัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าความดันลูกตาในผู้ป่วยโรคต้อหินที่วัดได้จากการวัดความดันลูกตาชนิดไม่สัมผัสตา (non-contact tonometry: NCT) และเครื่องวัดความดันลูกตาชนิด Goldmann applanation tonometry (GAT) รูปแบบการวิจัย: การศึกษาชนิดไปข้างหน้าและภาคตัดขวาง วิธีการศึกษา: การศึกษาในผู้ป่วยโรคต้อหิน 200 ราย ที่ได้รับการบันทึกในฐานข้อมูล HOMC กลุ่มงานจักษุวิทยา โรงพยาบาลอ่างทอง ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2564 วัดค่าความดันลูกตาและประเมินวิเคราะห์ค่าความแตกต่างของความดันลูกตา โดยวิธีการวัดความดันลูกตาชนิดไม่สัมผัสตา และเครื่องวัดความดันลูกตาชนิด Goldmann applanation tonometry ด้วย paired t-test และหาความสัมพันธ์ระหว่างค่าความดันลูกตาที่วัดโดยทั้งสองวิธี ผลการศึกษา: ค่าเฉลี่ยของความดันลูกตาจากการวัดความดันลูกตาชนิดไม่สัมผัสตา (non-contact tonometry: NCT) เท่ากับ 17.29 ± 4.21 มิลลิเมตรปรอท และจากการวัดความดันลูกตาชนิด Goldmann applanation tonometry (GAT) เท่ากับ 16.50 ± 3.74 มิลลิเมตรปรอท ความแตกต่างของค่าความดันลูกตาในผู้ป่วยโรคต้อหินจากการวัดทั้งสองวิธี เท่ากับ 0.79 ± 1.09 มิลลิเมตรปรอท วิเคราะห์ด้วย Pearson correlation coefficient พบว่าค่าความดันลูกตาที่วัดโดยทั้งสองวิธี มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งตาขวา (r = 0.807, n = 200, P < 0.001) และของตาซ้าย (r = 0.857, n = 200, P < 0.001) โดยความสัมพันธ์ของทั้งสองวิธีอยู่ในทิศทางบวก Bland-Altman plot พบว่า limit of agreement (LoA) ของตาขวาเท่ากับ -3.88 ถึง 5.81 มิลลิเมตรปรอท (ค่าเฉลี่ย = 0.95) และมี 95% limit of agreement (LoA) ของตาซ้ายเท่ากับ -3.67 ถึง 4.92 มิลลิเมตรปรอท (ค่าเฉลี่ย = 0.62)สรุป: จากการศึกษานี้ ค่าความดันลูกตาจากการวัดด้วย NCT มีค่าสูงกว่าวิธี GAT อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และค่าความแตกต่างของความดันลูกตาอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ทางคลินิก โดยมีความสัมพันธ์ในทิศทางบวก ทั้งตาขวาและตาซ้าย NCTเหมาะสมในการคัดกรองผู้ป่วยโรคต้อหินและโรคตาทั่วไป ร่วมกับการวัดค่าความดันตาด้วยวิธีโกลด์แมนน์ ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นมาตรฐานสำคัญ
โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ