|
ระบบบริการสุขภาพช่องปากและข้อเสนอการพัฒนารูปแบบการจัดบริการสำหรับหญิงตั้งครรภ์ภายใต้ระบบกองทุนประกันสุขภาพภาครัฐ: กรณีศึกษากรุงเทพมหานคร |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | วรุต ชลิทธิกุล |
| Title | ระบบบริการสุขภาพช่องปากและข้อเสนอการพัฒนารูปแบบการจัดบริการสำหรับหญิงตั้งครรภ์ภายใต้ระบบกองทุนประกันสุขภาพภาครัฐ: กรณีศึกษากรุงเทพมหานคร |
| Contributor | ปิยะดา ประเสริฐสม, วรมน อัครสุต, วรางคณา จิรรัตนโสภา |
| Publisher | สำนักทันตสาธารณสุข |
| Publication Year | 2568 |
| Journal Title | วิทยาสารทันตสาธารณสุข |
| Journal Vol. | 30 |
| Page no. | 73-88 |
| Keyword | บริการสุขภาพช่องปาก, ทันตกรรม, หญิงตั้งครรภ์, ระบบกองทุนประกันสุขภาพภาครัฐ, กรุงเทพมหานคร |
| URL Website | https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThDPHJo |
| Website title | วิทยาสารทันตสาธารณสุข |
| ISSN | ISSN 3027-7469 |
| Abstract | การศึกษาเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวางด้วยวิธีแบบผสมผสานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและสังเคราะห์ข้อเสนอเชิงนโยบายในการพัฒนาทางเลือกการจัดบริการด้านสุขภาพช่องปากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ในกรุงเทพมหานคร และการดำเนินงานตามหลักประกันสุขภาพและกองทุนประกันสุขภาพภาครัฐที่เกี่ยวข้อง วิธีวิจัยประกอบด้วยการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 46 คน ได้แก่ ผู้เกี่ยวข้องด้านนโยบาย ผู้ให้บริการฝากครรภ์และทันตกรรม และหญิงตั้งครรภ์ในฐานะผู้รับบริการ โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกและสนทนากลุ่ม เกี่ยวกับแนวคิดของนโยบายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพช่องปาก การจัดบริการ ประสบการณ์และความคาดหวัง ร่วมกับเก็บข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถามจากหญิงตั้งครรภ์ชาวไทยในกรุงเทพมหานคร 388 คน เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป สภาวะสุขภาพช่องปาก พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก การเข้ารับบริการทันตกรรม และความคิดเห็นต่อทางเลือกการจัดบริการ ผลการศึกษาพบว่า ผู้เกี่ยวข้องด้านนโยบายมีแนวคิดลดความเหลื่อมล้ำโดยการขยายหน่วยบริการให้ครอบคลุมภาคเอกชน ขยายสิทธิประโยชน์ และเพิ่มค่าชดเชยบริการ ขณะที่ผู้ให้บริการได้มีการจัดบริการทันตกรรมโดยเฉพาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามหญิงตั้งครรภ์มีความเห็นว่าหน่วยบริการมีจำนวนน้อย การประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง ไม่ทราบสิทธิประโยชน์ระหว่างตั้งครรภ์ และมีข้อจำกัดด้านเวลา ความสะดวก และสิทธิประโยชน์ที่ไม่ครอบคลุม นอกจากนี้การติดตามผลการให้บริการยังไม่สมบูรณ์และขาดการเชื่อมต่อข้อมูลผลจากแบบสอบถามพบว่า หญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 61.3 ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากเพียงร้อยละ 24.2 ได้รับบริการขัดและทำความสะอาดฟัน มีฟันผุร้อยละ 61.0 มีหินน้ำลายร้อยละ 75.2 โดยมีถึงร้อยละ 59.8 ที่ไม่ทราบสิทธิทันตกรรมระหว่างตั้งครรภ์ การศึกษานี้สรุปว่า ควรมีการพัฒนานโยบายที่ส่งเสริมการรับรู้สิทธิและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการทันตกรรมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากและป้องกันโรคของสวัสดิการข้าราชการและสิทธิประกันสังคม ให้เข้าถึงได้สะดวกมากขึ้นโดยคลินิกนวัตกรรมบริการ และคำนึงถึงความคิดเห็นของผู้ให้บริการและผู้รับบริการเป็นพื้นฐาน ร่วมกับแนวคิดทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง |