|
รูปแบบการอนุรักษ์ สืบสาน เผยแพร่ วัฒนธรรมท้องถิ่นไทยทรงดำบ้านหนองเนิน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | รวงทอง ถาพันธุ์ |
| Title | รูปแบบการอนุรักษ์ สืบสาน เผยแพร่ วัฒนธรรมท้องถิ่นไทยทรงดำบ้านหนองเนิน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ |
| Contributor | สิทธิพร เขาอุ่น, พิชญ์อนงค์ ผดุงศิลป์ไพโรจน์, นัยนา รัตนสุวรรณชาติ, ธนาภรณ์ แสวงทอง |
| Publisher | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ |
| Publication Year | 2568 |
| Journal Title | The Journal of Research and Academics |
| Journal Vol. | 8 |
| Journal No. | 6 |
| Page no. | 134 |
| Keyword | รูปแบบการอนุรักษ์สืบสานเผยแพร่, วัฒนธรรมท้องถิ่น, ไทยทรงดำ |
| URL Website | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/index |
| Website title | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/index |
| ISSN | ISSN 2672-9962 (Online) |
| Abstract | บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและประวัติความเป็นมาของการอนุรักษ์ สืบสานเผยแพร่ วัฒนธรรมท้องถิ่นไทยทรงดำ 2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบฯ และ 3) ประเมินรูปแบบการอนุรักษ์ สืบสาน เผยแพร่ วัฒนธรรมท้องถิ่นไทยทรงดำบ้านหนองเนิน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เป็นการวิจัยคุณภาพโดยใช้การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างและการประชุมกลุ่มย่อย กับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญซึ่งใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง กลุ่มละ 5 คน รวม 15 คน ได้แก่ 1) ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 2) ผู้นำชุมชน เจ้าอาวาส ผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหาร รพ.สต. และ 3) ภาคีเครือข่ายวัฒนธรรม วิสาหกิจชุมชน OTOP ร้านค้าชุมชน ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา จำแนก และสรุปประเด็นสำคัญอย่างเป็นระบบ ผลการวิจัย พบว่า 1) ไทยทรงดำ แต่เดิมตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณแคว้นสิบสองจุไทย กองทัพไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้กวาดต้อนเข้ามาหลายครั้ง ซึ่งได้กระจายไปอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงบ้านหนองเนิน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ โดยยังคงอนุรักษ์ สืบสาน เผยแพร่ วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักณ์ของตนเองไว้ได้อย่างเข้มแข็ง 2) รูปแบบการอนุรักษ์ สืบสาน เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น ในลักษณะคณะกรรมการอนุรักษ์สืบสาน ที่มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้ในคุณค่า ความหวงแหน และการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมที่มีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ และการวิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของชุมชน และ 3) การประเมินรูปแบบตามมาตรฐาน 4 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านความเป็นไปได้ ควรเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้าเป็นภาคีเครือข่ายวัฒนธรรม (“บวร”) ซึ่งเป็นพลังอำนาจที่แท้จริงของชุมชน (2) ด้านความเป็นประโยชน์ ควรส่งเสริมพัฒนาพัฒนาคนรุ่นใหม่เป็นผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม สร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม (3) ด้านความเหมาะสม ควรนำข้อมูลสารสนเทศขนาดใหญ่ มาใช้ในการขับเคลื่อน อนุรักษ์ สืบสาน เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยทรงดำ และ (4) ด้านความถูกต้องครอบคลุม ควรส่งเสริมความตระหนักถึงสิทธิทางวัฒนธรรม การคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม การเผยแพร่วัฒนธรรม และการเข้าถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย |