![]() |
ระบาดวิทยาเชิงพรรณนาวัณโรคดื้อยาหลายขนาน โรงพยาบาลมะการักษ์ปี 2550-2558 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | สมบัติ แทนประเสริฐสุข |
Title | ระบาดวิทยาเชิงพรรณนาวัณโรคดื้อยาหลายขนาน โรงพยาบาลมะการักษ์ปี 2550-2558 |
Contributor | จิตรลดา อุทัยพิบูลย์, ก่อพงษ์ ทศพรพงศ์, จันทิรา สุขะสิฐษ์วณิชกุล, วัลภา จุลเวช |
Publisher | สถาบันวิจัย จัดการความรู้ และมาตรฐานการควบคุมโรค |
Publication Year | 2560 |
Journal Title | วารสารควบคุมโรค |
Journal Vol. | 43 |
Journal No. | 4 |
Page no. | 400-412 |
Keyword | วัณโรคดื้อยาหลายขนาน, ระบาดวิทยาเชิงพรรณนา |
URL Website | https://www.tci-thaijo.org/index.php/DCJ |
Website title | เว็บไซต์วารสารควบคุมโรค |
ISSN | 1685-6481 |
Abstract | จำนวนผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่รายงานโดยโรงพยาบาลมะการักษ์ ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2550 ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้รวบรวมข้อมูลผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนาน ที่พบในระหว่างปี 2550 ถึงมิถุนายน 2558 โดยจัดเก็บข้อมูลจากทะเบียน เวชระเบียน และฐานข้อมูลต่างๆ ของโรงพยาบาล ดำเนินการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกันยายน 2558 และวิเคราะห์ระบาดวิทยาเชิงพรรณนา และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจสภาพปัญหาและเสนอแนะแนวทางการจัดการป้องกันควบคุมและดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานให้มีประสิทธิผลมากขึ้น ผลการศึกษาพบว่า มีข้อมูลจากผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่นำมาทบทวนได้ 240 ราย พบว่า ข้อมูลจำนวนหนึ่งมีไม่ครบถ้วน จากข้อมูลที่วิเคราะห์ได้พบว่า อัตราการพบผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานต่อผู้ป่วยวัณโรครวม เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.7 ในปีงบประมาณ 2550 เป็นร้อยละ 17.2 ในปีงบประมาณ2554 และลดลงเป็นร้อยละ 8.8 ในปีงบประมาณ 2558 จากข้อมูลที่มีอยู่พบว่า สัดส่วนผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานรายใหม่ ต่อผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่เคยรักษามาก่อน เท่ากับ 1.67:1 พบผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่เป็นคนต่างด้าว 2 ราย (ร้อยละ 0.8) ในภาพรวมพบผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนาน เป็นเพศชายร้อยละ 50.8 และเพศหญิงร้อยละ 47.1 นอกจากนั้นไม่มีข้อมูลเรื่องเพศ ผู้ป่วยกระจายมาจากทุกกลุ่มอายุ โดยร้อยละ 45.5 มีอายุระหว่าง 21-45 ปี ผู้ป่วยร้อยละ 82.4 อาศัยในอำเภอท่ามะกาโดยกระจายมาจากทุกตำบลส่วนที่เหลืออาศัยในอำเภออื่น ๆ ในจังหวัดเดียวกันและจังหวัดอื่น ผลการตรวจความไวต่อยาพบว่า เชื้อวัณโรคดื้อยาหลายชนิด ในส่วนของผลการรักษามีข้อมูลในผู้ป่วย 177 ราย ไม่มีข้อมูล 63 ราย ในกลุ่มที่มีผลการรักษาพบว่ารักษาหาย 77 ราย (ร้อยละ 43.5) รักษาครบ 39 ราย (ร้อยละ 22.0) ขาดนัด 14 ราย (ร้อยละ 7.9) ไปรับรักษาที่อื่น 2 ราย (ร้อยละ 1.1) รักษาล้มเหลว 5 ราย (ร้อยละ 2.8) อื่น ๆ 1 ราย (ร้อยละ 0.6) และเสียชีวิต 39 ราย (ร้อยละ 22.0) สำหรับผลการรักษาในผู้ป่วยดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก 12 ราย และชนิดรุนแรง 1 รายรวม 13 ราย พบว่า ยังอยู่ระหว่างการรักษา 1 ราย (ร้อยละ 7.7) ขาดนัดและรักษาล้มเหลว กลุ่มละ 3 ราย(ร้อยละ 23.1) และเสียชีวิต 6 ราย (ร้อยละ 46.1) แม้การวิจัยครั้งนี้จะมีข้อจำกัดเรื่องความไม่ครบถ้วนของข้อมูลแต่ก็ได้ทำให้เข้าใจในระบาดวิทยา ความรุนแรงและขนาดของปัญหา รวมทั้งแนวโน้มที่คาดว่า จะยังคงมีผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานเพิ่มขึ้น และอาจขยายไปยังพื้นที่อื่นได้ ข้อเสนอแนะจากการวิจัย ได้แก่ ควรเร่งรัดการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์วัณโรคดื้อยาหลายขนานอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ควรวิจัยและพัฒนาแนวทางการป้องกันควบคุมการตรวจวินิจฉัย การดูแลรักษา และการกำกับติดตามการรักษาผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนาน และควรวิจัยและพัฒนาระบบข้อมูล เพื่อสนับสนุนการดำ เนินงานรวมทั้งขยายผลการดำเนินงานป้องกันควบคุม และดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนาน ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่อาจพบผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานได้ต่อไป |