|
การพัฒนาระบบการเปิดตะกอสำหรับกี่พื้นบ้านของกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองตราดน้อย ตำบลชุมเห็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | วชิรศักดิ์ เขียนวงศ์ |
| Title | การพัฒนาระบบการเปิดตะกอสำหรับกี่พื้นบ้านของกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองตราดน้อย ตำบลชุมเห็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ |
| Contributor | จุฬาลักษณ์ จารุจุฑารัตน์ |
| Publisher | Faculty of Engineering and Industrial Technology, Kalasin University |
| Publication Year | 2568 |
| Journal Title | วารสารวิศวกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ |
| Journal Vol. | 3 |
| Journal No. | 5 |
| Page no. | 28-41 |
| Keyword | กี่พื้นบ้าน, ผ้ายกดอก, การทอผ้า, ระบบเปิดตะกอ |
| URL Website | https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JEIT |
| Website title | วารสารวิศวกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ |
| ISSN | ISSN 2985-0274 (Print),ISSN 2985-0282 (Online) |
| Abstract | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลไกเปิดตะกอแบบแจ็คการ์ด 400 เข็มสำหรับกี่ทอพื้นบ้านของกลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองตราดน้อย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมุ่งเน้นการสร้างต้นแบบระบบที่สามารถติดตั้งและใช้งานได้จริงในชุมชน พร้อมทั้งออกแบบเครื่องมือเสริม ได้แก่ เครื่องเจาะแผ่นการ์ดและเครื่องร้อยแผ่นการ์ด เพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตผ้ายกดอกและลดข้อจำกัดด้านแรงงานฝีมือที่ต้องอาศัยความชำนาญสูง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการใช้นวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชน องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การทอผ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่หรือผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางการทอผ้า สามารถเข้าถึงและเรียนรู้กระบวนการผลิตได้อย่างเข้าใจง่าย ส่งผลต่อการอนุรักษ์ภูมิปัญญาและสร้างรายได้ในระดับท้องถิ่น กระบวนการวิจัยประกอบด้วยการศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การออกแบบและสร้างต้นแบบ การติดตั้งและทดสอบอุปกรณ์ในสถานที่จริง และการประเมินผลด้วยวิธีการเชิงปริมาณและคุณภาพ จากผลการทดลองพบว่าระบบสามารถเพิ่มระยะการทอเป็น 45.72 เซนติเมตรต่อชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสามเท่า โดยเครื่องเจาะแผ่นการ์ดมีประสิทธิภาพเฉลี่ย 25 แผ่นต่อชั่วโมง และเครื่องร้อยแผ่นการ์ดสามารถร้อยได้ภายใน 3.5 วินาทีต่อแผ่น การวิเคราะห์เชิงกลศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าแรงกดจากหีบมีดมีผลต่อความแม่นยำในการยกเส้นด้ายยืน ซึ่งสัมพันธ์กับความคมชัดของลวดลายที่ทอ การออกแบบที่คำนึงถึงหลักการเคลื่อนที่และแรงกดที่เหมาะสมยังช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ทอผ้า และเพิ่มความต่อเนื่องของการทำงาน โดยไม่เกิดความผิดพลาด ผู้ใช้งานมีความพึงพอใจในระดับมาก สะท้อนถึงความเหมาะสมของนวัตกรรมต่อการใช้งานจริง ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมคือควรสนับสนุนการฝึกอบรมการใช้งานระบบอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาให้อุปกรณ์สามารถปรับใช้งานได้ในพื้นที่ที่มีบริบทแตกต่างกัน เพื่อขยายผลในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน |