องค์ประกอบที่เหมาะสมของการเชื่อมเหล็กกล้าคาร์บอนด้วยแขนกลตามกรรมวิธีการเชื่อมแบบ Fillet
รหัสดีโอไอ
Creator ตีเพชร ไชยศล
Title องค์ประกอบที่เหมาะสมของการเชื่อมเหล็กกล้าคาร์บอนด้วยแขนกลตามกรรมวิธีการเชื่อมแบบ Fillet
Contributor วิทยา อินทร์สอน
Publisher Faculty of Engineering and Industrial Technology, Kalasin University
Publication Year 2568
Journal Title วารสารวิศวกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
Journal Vol. 3
Journal No. 5
Page no. 16-27
Keyword แขนกลอุตสาหกรรม, การออกแบบการทดลอง, การหาค่าที่เหมาะสม, การเชื่อม
URL Website https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JEIT
Website title วารสารวิศวกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
ISSN ISSN 2985-0274 (Print),ISSN 2985-0282 (Online)
Abstract งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาการใช้แขนกลอุตสาหกรรมเชื่อมเหล็กกล้าคาร์บอนให้มีความเหมาะสมตามองค์ประกอบของกรรมวิธีการเชื่อมแบบ Fillet โดยใช้การออกแบบการทดลองแบบ Box Behnken และทำการทดลองทั้งหมด 30 ครั้ง องค์ประกอบที่ศึกษามี 3 ประการ ได้แก่ กระแสไฟ ความเร็วการป้อนลวด และความเร็วในการเชื่อม สำหรับวัสดุที่ใช้ คือ เหล็กกล้าคาร์บอน ขนาดความกว้าง 100 เซนติเมตร ยาว 150 เซนติเมตร หนา 4.5 มิลลิเมตร ใช้ลวดเชื่อม MIG ขนาด 1.2 มิลลิเมตร และใช้แก๊สปกคลุมคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละหนึ่งร้อย ที่ความถี่ 1.4 เฮิรตซ์ การทดสอบแรงกดแนวเชื่อมใช้เครื่องทดสอบแรงกดที่มีความสามารถ 60 ตัน (Model 60T) โดยการเชื่อมต่อมุม (Corner Joint) การทดลองพบว่า องค์ประกอบของการเชื่อมที่เหมาะสม คือ กระแสไฟฟ้า 113.5 แอมแปร์ ความเร็วการป้อนลวด 3.0 เมตรต่อนาที และความเร็วในการเชื่อม 4.0 มิลลิเมตรต่อวินาที ความแข็งแรงผลลัพธ์ที่ได้ 4,500 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (R-squared) ที่ได้เท่ากับร้อยละ 75 ขึ้นไปถือว่าข้อมูลที่นำมาทำการทดลองมีความน่าเชื่อถือและมีความแม่นยำ ส่วนค่าความพึงพอใจโดยรวมของผลตอบ (Composite Desirability: D) เท่ากับ 1 ช่วยทำให้ผลตอบนั้นได้รับความพึงพอใจอย่างสมบูรณ์ และด้านแนวเชื่อมมีคุณภาพสมบูรณ์ตรงตามเกณฑ์มาตรฐานที่ยอมรับได้
คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ