การบูรณาการ Blockchain, Supercapacitors และ Dynamic Reactive Compensation เพื่อการจัดการโหลดไฟฟ้าอัจฉริยะในอาคาร Smart Campus
รหัสดีโอไอ
Creator สันติ การีสันต์
Title การบูรณาการ Blockchain, Supercapacitors และ Dynamic Reactive Compensation เพื่อการจัดการโหลดไฟฟ้าอัจฉริยะในอาคาร Smart Campus
Contributor สิทธิศักดิ์ โรจชะยะ
Publisher Faculty of Engineering and Industrial Technology, Kalasin University
Publication Year 2568
Journal Title วารสารวิศวกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
Journal Vol. 3
Journal No. 5
Page no. 1-15
Keyword บล็อกเชน, ตัวเก็บประจุยิ่งยวด, การชดเชยพลังงานรีแอกทีฟแบบพลวัต, สมาร์ทแคมปัส, การจัดการโหลดไฟฟ้าอัจฉริยะ
URL Website https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JEIT
Website title วารสารวิศวกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
ISSN ISSN 2985-0274 (Print),ISSN 2985-0282 (Online)
Abstract งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบจัดการโหลดไฟฟ้าอัจฉริยะในอาคารเรียนภายใต้แนวคิด Smart Campus โดยนำเสนอแนวทางใหม่ที่บูรณาการเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง Blockchain เพื่อความโปร่งใสในการจัดเก็บข้อมูล Supercapacitor สำหรับสำรองและจ่ายพลังงานอย่างรวดเร็วในช่วงโหลดพุ่งสูง และ Dynamic Reactive Compensation (DRC) เพื่อรักษาคุณภาพของพลังงานไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพ โดยประยุกต์ใช้กับอาคารเรียนของวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย ระบบที่พัฒนานี้ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ทางวิชาการ โดยบูรณาการเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Blockchain เข้าด้วยกันเป็นครั้งแรกในบริบทของอาคารเรียน เพื่อบริหารจัดการโหลดไฟฟ้าแบบเรียลไทม์อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส โดยมีการเก็บข้อมูลกระแสไฟฟ้าผ่านระบบ IoT ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ถึงกุมภาพันธ์ 2568 ผลการทดลองเปรียบเทียบก่อนและหลังการติดตั้งระบบ พบว่า ค่าความไม่สมดุลของโหลดระหว่างเฟส (Phase Load Imbalance) ลดลงจากร้อยละ 12.8 เหลือเพียงร้อยละ 3.4 ค่า Power Factor เพิ่มขึ้นจาก 0.82 เป็น 0.97 ส่งผลให้พลังงานสูญเสียจากกำลังรีแอกทีฟลดลงถึงร้อยละ 28.7 Supercapacitor สามารถจ่ายพลังงานได้สูงสุดถึง 11.4 กิโลวัตต์ (kW) ภายในเวลา 0.7 วินาที (s) ช่วยลดแรงดันตก (Voltage Sag) ในช่วง Peak Load ได้กว่าร้อยละ 65 ระบบ Blockchain ที่พัฒนาขึ้นสามารถบันทึกข้อมูลโหลดทุกวินาทีโดยไม่มีข้อมูลสูญหาย และมี Latency ในการเข้าถึงข้อมูลน้อยกว่า 0.6 วินาที (s) ประสิทธิภาพรวมของระบบไฟฟ้าในอาคารเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 88.2 เป็นร้อยละ 96.5 ภายในระยะเวลา 3 เดือน ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าระบบไฟฟ้าอาคารเรียนมีการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ และมีศักยภาพในการขยายผลสู่ระดับอาคารอัจฉริยะทั้งระบบหรือ Smart Campus ในอนาคต
คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ