|
ปัญหาทางกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น: ศึกษากรณีมาตรา 14 และมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | จรีวัลย์ น้อยผาง |
| Title | ปัญหาทางกฎหมายว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น: ศึกษากรณีมาตรา 14 และมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 |
| Contributor | นิรมัย พิศแข มั่นจิตร |
| Publisher | มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ |
| Publication Year | 2568 |
| Journal Title | วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ |
| Journal Vol. | 14 |
| Journal No. | 2 |
| Page no. | 25-41 |
| Keyword | เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น, จำกัดเสรีภาพ, ข้อมูลคอมพิวเตอร์ |
| URL Website | https://so01.tci-thaijo.org/index.php/NBU |
| ISSN | 3088-1129 |
| Abstract | เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 34 ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสื่อสารนั้น สามารถกระทำได้อย่างง่ายดายโดยการแสดงความเห็นผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อกิจการของรัฐ ในขณะเดียวกันประเทศไทย ตราพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งมาตรา 14 และมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว กลับกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่รัฐนำมาใช้จำกัดหรือลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน โดยยกเหตุผลเรื่องความมั่นคงของรัฐหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนเป็นฐานในการแทรกแซงการแสดงออกโดยเฉพาะในประเด็นทางการเมือง ซึ่งก่อให้เกิดข้อถกเถียงสำคัญว่าบทบัญญัติเหล่านั้น มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการตีความบังคับใช้มีความเป็นธรรมและสอดคล้องกับหลักการที่สำคัญที่เกี่ยวข้องเพียงใดจากการศึกษาวิเคราะห์ พบว่า ปัญหาหลักของบทบัญญัติมาตรา 14 และมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้แก่ 1) การใช้ถ้อยคำที่คลุมเครือ เช่น “ข้อมูลเท็จ” “โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย” “น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนก” หรือ “ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี” ซึ่งล้วนเปิดช่องให้มีการใช้ดุลยพินิจตีความได้อย่างกว้าง 2) ขาดแนวทางหรือหลักเกณฑ์ในการแยกแยะระหว่างข้อมูลซึ่งความคิดเห็นที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญกับข้อมูลซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย และ 3) กระบวนการบังคับใช้มาตรา 14 และมาตรา 20 ที่ไม่สอดคล้องตามหลักความได้สัดส่วน ทั้งนี้ประเทศไทยใช้ข้อยกเว้นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพมากกว่าการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ |