|
จิตลักษณะ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของครอบครัว ที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | 1. ตรงกมล สนามเขต 2. ดุจเดือน พันธุมนาวิน |
| Title | จิตลักษณะ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของครอบครัว ที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา |
| Publisher | สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มศว |
| Publication Year | 2559 |
| Journal Title | วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา |
| Journal Vol. | 8 |
| Journal No. | 1 |
| Page no. | 163-186 |
| Keyword | จิตลักษณะ, ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของครอบครัว, การรับรู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบรักสนับสนุนและแบบใช้เหตุผล |
| ISSN | 2228-9453 |
| Abstract | การวิจัยความสัมพันธ์เรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาปัจจัยเชิงเหตุทั้งด้านจิตลักษณะ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบรักสนับสนุนและการรับรู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบใช้เหตุผล โดยมีพื้นฐานจากทฤษฎีปฏิสัมพันธ์นิยม กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จํานวน 595 คน ประกอบด้วย นักเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและในต่างจังหวัด จากโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาแบบสหศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเป็นนักเรียนชายจํานวน 282 คน (47.5%) และนักเรียนหญิง 312 คน (52.5%) เป็นนักเรียนในกรุงเทพมหานคร จํานวน 283 คน(47.6%) และนักเรียนในต่างจังหวัด 311 คน (52.4%) โดยทําการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งในกลุ่มรวม และกลุ่มย่อยตามลักษณะทางชีวสังคมและภูมิหลัง ผลการวิเคราะห์ถดถอยแบบพหุคูณและมีลําดับชั้นในกลุ่มรวม พบว่า ตัวทํานายจากกลุ่มจิตลักษณะเดิม กลุ่มปัจจัยภายในและกลุ่มปัจจัยภายนอกของครอบครัว ร่วมกับตัวทํานายกลุ่มจิตลักษณะตามสถานการณ์รวม 12 ตัวแปร สามารถทํานาย 1) การรับรู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบรักสนับสนุน ในกลุ่มรวมได้ 37.0% โดยมีลําดับตัวทํานายที่สําคัญเรียงจากมากไปน้อย คือ ทัศนคติที่ดีต่อบิดา ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนและบิดามารดา ทัศนคติที่ดีต่อมารดา การสนับสนุนทางสังคมจากคนรอบข้าง การมีภูมิคุ้มกันภายในตนและประสบการณ์ทางสังคม และ 2) การรับรู้วิธีการอบรมเลี้ยงดูแบบใช้เหตุผล ในกลุ่มรวมได้ 30.4% โดยมีลําดับตัวทํานายที่สําคัญเรียงจากมากไปน้อย คือ ทัศนคติที่ดีต่อบิดา การสนับสนุนทางสังคมจากคนรอบข้าง การมีภูมิคุ้มกันภายในตน ประสบการณ์ทางสังคม ทัศนคติที่ดีต่อมารดา และความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดานอกจากนี้ผลปรากฏว่า นักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเร่งด่วนที่ควรพัฒนา คือ นักเรียนหญิง และนักเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ควรได้รับการพัฒนาทัศนคติที่ดีต่อบิดาและมารดา การรับรู้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างบิดามารดาและบุตร การสนับสนุนทางสังคมจากคนรอบข้าง และการมีภูมิคุ้มกันภายในตน |
