![]() |
การพัฒนาชุดฝึกอบรมทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนาในการพัฒนามนุษยสัมพันธ์การเห็นคุณค่าในตนเอง และลดเจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่มของวัยรุ่นตอนปลายในเขกรุงเทพมหานคร |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | 1. ชัญญา ลี้ศัตรูพ่าย 2. ชาญ รัตนะพิสิฐ |
Title | การพัฒนาชุดฝึกอบรมทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนาในการพัฒนามนุษยสัมพันธ์การเห็นคุณค่าในตนเอง และลดเจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่มของวัยรุ่นตอนปลายในเขกรุงเทพมหานคร |
Publisher | สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มศว |
Publication Year | 2560 |
Journal Title | วารสารพฤติกรรมศาสตร์ |
Journal Vol. | 23 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 21-40 |
Keyword | เจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่ม, ทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา, มนุษยสัมพันธ์, การเห็นคุณค่าในตนเอง, ชุดฝึกอบรม |
ISSN | 1686-1442 |
Abstract | การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนาชุดฝึกอบรมทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา ในการพัฒนามนุษยสัมพันธ์ การเห็นคุณค่าในตนเอง และลดเจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่ม ของวัยรุ่นตอนปลาย ในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 90 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดฝึกอบรมทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา มาตรวัดทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา มาตรวัดเจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่ม แบบสอบถามมนุษยสัมพันธ์กับเพื่อน และมาตรวัดการเห็นคุณค่าในตนเอง โดยแบ่งเงื่อนไขการวิจัยออกเป็น3 เงื่อนไข คือ กลุ่มทดลอง A ที่เข้ารับการฝึกอบรมทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนาทั้ง 2 ระยะ (เรียนรู้เนื้อหาและทดลองปฏิบัติ รวมถึงได้ใช้ในสถานการณ์จริง) กลุ่มทดลอง B ที่เข้ารับการฝึกอบรมทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนาเพียงระยะแรก (ได้เรียนรู้เนื้อหาและทดลองปฏิบัติเท่านั้น) และกลุ่มควบคุมซึ่งไม่ได้รับการฝึกอบรม ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้ที่มีเจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่มต่ำมีค่าเฉลี่ยของมนุษยสัมพันธ์และการเห็นคุณค่าในตนเองสูงกว่าผู้ที่มีเจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่มสูงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 2) ภายหลังเข้ารับการฝึกอบรมการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา กลุ่มทดลอง A มีระดับค่าเฉลี่ยของ เจตคติการชื่นชอบหรือรังเกียจกลุ่มลดลงมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มทดลอง B แตกต่างจากก่อนเข้ารับการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนกลุ่มทดลองมีระดับค่าเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง 3) ภายหลังการฝึกอบรมรูปแบบการฝึกอบรมของกลุ่มทดลอง A มีประสิทธิภาพในการทำให้ระดับของค่าเฉลี่ยของทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา มนุษยสัมพันธ์และการเห็นคุณค่าในตนเองเพิ่มขึ้นสูงที่สุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ รองลงมา คือ กลุ่มทดลอง B ส่วนกลุ่มควบคุมมีระดับทักษะการสื่อสารแบบกัลยาณสนทนา มนุษยสัมพันธ์ และการเห็นคุณค่าในตนเองไม่แตกต่างจากก่อนเข้ารับการทดลองเพื่อฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ |