![]() |
‘ชาติ’ ในสำนึกของเยาวรุ่น: ปรากฏการณ์วิทยาว่าด้วยความเป็นชาติตามทัศนะของนักเรียนในพื้นที่การศึกษาไทย |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | ‘ชาติ’ ในสำนึกของเยาวรุ่น: ปรากฏการณ์วิทยาว่าด้วยความเป็นชาติตามทัศนะของนักเรียนในพื้นที่การศึกษาไทย |
Creator | กัญณัฐ กองรอด |
Contributor | กิตติ คงตุก, ที่ปรึกษา |
Publisher | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
Publication Year | 2567 |
Keyword | การให้ความหมายชาติ, นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย, กระบวนการเรียนรู้, การศึกษาไทย, พื้นที่ชายแดนใต้, National significance, High school students, Learning process, Thai education, Southern border region |
Abstract | ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของเยาวชนและนักเรียนในห้วง พ.ศ.2563 ถูกกล่าวถึงในฐานะหมุดสำคัญของปรากฏการณ์ทางการเมืองร่วมสมัย ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวครั้งนั้นถูกตั้งคำถามต่อ ‘สำนึกรักชาติ’ ของพวกเขาและเธอจากผู้ไม่เห็นด้วย ทำให้เกิดการปะทะทางวาทกรรมระหว่าง ‘ผู้รักชาติ’ และ ‘ผู้ชังชาติ’ นำมาสู่ความสนใจของงานศึกษานี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาและสำรวจการให้ความหมายหรือนิยามคำว่า ‘ชาติ’ ตามทัศนะของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล และเขตพื้นที่พิเศษ (2) ศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการให้ความหมายหรือนิยามคำว่า ‘ชาติ’ ของนักเรียนกลุ่มศึกษา (3) ศึกษาถึงความสอดคล้องหรือการปะทะกันของการให้ความหมายเรื่อง ‘ชาติ’ ระหว่างทัศนะจากระบบการศึกษาและทัศนะที่เกิดจากการให้ความหมายของนักเรียนกลุ่มศึกษา และ (4) ประมวลข้อมูลจากการศึกษาและพัฒนาไปสู่การนำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบาย (policy recommendation) สำหรับแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้เรื่องชาติที่สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน ซึ่งงานศึกษานี้ให้ความสนใจกับนักเรียนในพื้นที่ชายแดนใต้ในฐานะตัวแทนนักเรียนจากเขตพื้นที่พิเศษ และใช้ปรากฏการณ์วิทยา (Phenomenology) เป็นวิธีวิจัยในการศึกษา ผลการศึกษาพบว่า การให้ความหมายชาติของกลุ่มศึกษาไม่สอดคล้องกับอุดมการณ์ชาติที่ระบบการศึกษาถ่ายทอด นั่นคือ ‘อุดมการณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์’ โดยความหมายชาติที่กลุ่มศึกษาให้ความสำคัญคือ ความเป็นพลเมืองและการดำรงอยู่ของผู้คนกลุ่มต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายภายใต้เขตแดนของรัฐ-ชาติ อย่างไรก็ตาม การให้ความหมายชาติมีทั้งจุดร่วมและประเด็นที่ต่างกัน ดังนี้ (1) การให้ความหมายชาติด้วยการเชื่อมโยงความสำคัญกับสถาบันกษัตริย์ (2) การให้ความหมายชาติในมิติที่ให้ความสำคัญต่อ ‘ผู้คนที่หลากหลาย’ อย่างเท่าเทียมกันภายใต้เขตแดนของรัฐ และ (3) การให้ความหมายชาติในฐานะหน่วยทางการปกครองที่อำนวยให้เกิดอรรถประโยชน์ต่อสมาชิกของรัฐ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการให้ความหมายดังกล่าวมีความแตกต่างกันตามเงื่อนไขการรับรู้และการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน ประกอบด้วย (1) กลุ่มทางการเมือง/กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง (2) เครือข่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (3) บริบทของพื้นที่ (4) หน่วยระดับโรงเรียน (5) หน่วยระดับครอบครัว (6) คุณลักษณะส่วนตัวของนักเรียน (7) เทคโนโลยีการสื่อสาร งานศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงการให้ความหมายชาติที่มีความลื่นไหลและความไม่คงทนของปัจเจก ซึ่งเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยโดยเฉพาะกระบวนการโลกาภิวัตน์ ทำให้ความหลากหลายของผู้คนและความขัดแย้งทางความคิดเป็นปรากฏการณ์ปกติที่เกิดขึ้น รวมถึงปัจจัยอื่นที่มีพลวัต เช่น การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ล้วนส่งอิทธิพลต่อการเรียนรู้และการสร้างสำนึกหรือการให้ความหมายชาติของปัจเจก |