การใช้การวิเคราะห์ระบบกิจกรรมแบบปรับปรุงเพื่อระบุความขัดแย้งภายใน ในการทำกิจกรรมทางวิชาการของครู
รหัสดีโอไอ
Title การใช้การวิเคราะห์ระบบกิจกรรมแบบปรับปรุงเพื่อระบุความขัดแย้งภายใน ในการทำกิจกรรมทางวิชาการของครู
Creator ภานุพงษ์ วิยะบุญ
Contributor ดวงกมล ไตรวิจิตรคุณ
Publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Publication Year 2555
Keyword กิจกรรมการเรียนการสอน, ครู, ความขัดแย้ง (จิตวิทยา), Activity programs in education, Teachers, Conflict ‪(Psychology)‬
Abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ที่นำไปสู่ความขัดแย้งภายในในการทำกิจกรรมทางวิชาการ 2) เพื่อวิเคราะห์ผลของความขัดแย้งภายในต่อการทำกิจกรรมทางวิชาการของครูผู้ช่วย ใช้วิธีวิทยาการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาแบบพหุเทศะกรณีศึกษา โดยใช้กรณีศึกษา 3 กรณีที่มีความแตกต่างกันในลักษณะสถานศึกษาคือ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา และโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เป็นทางการและไม่เป็นทางการ การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม การวิเคราะห์เอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลโดยการเปรียบเทียบข้อมูล การตีความข้อมูล ร่วมกับการวิเคราะห์ระบบกิจกรรมแบบปรับปรุง ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. โรงเรียนประถมศึกษา พบว่า ครูโรงเรียนประถมศึกษาคนที่ 5 พบสถานการณ์มากที่สุด 6 สถานการณ์ สถานการณ์ที่พบเป็นด้านประเภทกิจกรรมทางวิชาการ กล่าวคือ ครูเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการมาแล้ว จึงรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่สนใจทำกิจกรรม และหนังสือและเอกสารที่ทางโรงเรียนจัดให้ไม่ตอบสนองกับความต้องการ เพราะครูอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้รอง ทำให้มีหนังสือและเอกสารค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ต้องซื้อหนังสือเป็นของตนเอง รองลงมาคือครูโรงเรียนประถมศึกษาคนที่ 2 พบสถานการณ์ 5 สถานการณ์ สถานการณ์ที่พบเป็นด้านงบประมาณ สื่อ อุปกรณ์ แหล่งการเรียนรู้อื่นๆ พบว่าหนังสือและเอกสารที่ทางโรงเรียนจัดให้ไม่ตอบสนองกับความต้องการ จึงไปใช้แหล่งการเรียนรู้อื่น และซื้อหนังสือเป็นของตนเองเช่นกัน2. โรงเรียนมัธยมศึกษา พบว่า ครูโรงเรียนมัธยมศึกษาคนที่ 4 พบสถานการณ์ที่มากที่สุด 6 สถานการณ์ สถานการณ์ที่พบเป็นด้านประเภทกิจกรรมทางวิชาการ กล่าวคือ ครูต้องการเนื้อหาใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ แต่ก็มีบ้างกิจกรรมไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดการเรียนรู้ และพบว่ากิจกรรรมที่โรงเรียนจัดขึ้นเป็นเพียงการมอบหมายงานเท่านั้น ส่งผลให้ไม่สามารถพัฒนาวิชาชีพเต็มศักยภาพ รองลงมาคือ ครูโรงเรียนมัธยมศึกษาคนที่ 5 พบสถานการณ์ 5 สถานการณ์ สถานการณ์ที่พบเป็นด้านประเภทกิจกรรมทางวิชาการ กล่าวคือ ระยะเวลาการทำกิจกรรมไม่เพียงพอ ส่งผลให้ครูต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มด้วยตนเอง และเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมไม่ได้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ยังนำไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนครู 3. โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา พบว่า ครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาคนที่ 1, 3, 4 และคนที่ 5 พบสถานการณ์มากที่สุด 3 สถานการณ์ ครูรู้สึกกังวลในการทำกิจกรรมทางวิชาการ เพราะมีภาระงานที่ได้รับมอบหมายมากและไม่ตรงกับความสามารถ ส่งผลให้ครูขาดแรงจูงใจในการทำกิจกรรม และมีความรู้ความสามารถไม่เท่ากับครูท่านอื่น รวมทั้งหนังสือและเอกสารทางวิชาการไม่สอดคล้องกับความต้องการ ทำให้ครูต้องแสวงหาแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ และครูโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาคนที่ 1 เข้าใจโรงเรียนเป็นสถานที่ปฏิบัติงานสอน ไม่ได้ดูแลเรื่องการจัดกิจกรรม สถานการณ์นี้ถือว่าเป็นความขัดแย้ง เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่พัฒนาวิชาชีพและมีบทบาทสำคัญในการจัดกิจกรรมทางวิชาการแก่ครู
URL Website cuir.car.chula.ac.th
Chulalongkorn University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ