การศึกษาผลของการให้วิตามินดี ต่อการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะการขาดวิตามินดี
รหัสดีโอไอ
Title การศึกษาผลของการให้วิตามินดี ต่อการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะการขาดวิตามินดี
Creator เกรียงศักดิ์ เจริญสุข
Contributor ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์
Publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Publication Year 2555
Keyword วิตามินดี -- การใช้รักษา, ภาวะขาดวิตามินดี, ตับอักเสบซี -- การรักษา, ตับ -- โรค -- การรักษา, Vitamin D -- Therapeutic use, Vitamin D deficiency, Hepatitis C -- Treatment, Liver -- Diseases -- Treatment
Abstract ความสำคัญและที่มาของปัญหางานวิจัย ภาวะการขาดวิตามินดี ระดับของสารไอพีเทน(IP-10) และความหลากหลายของไอแอล 28 เบต้า(IL28 polymorphism) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยใน การทำนายผลการตอบสนองต่อ การรักษาด้วยยาอินเตอเฟียรอนและยาไรบ้าไวรินซึ่งเป็นมาตรฐานปัจจุบันในการรักษาผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี วิตามินดีมีผลต่อการควบคุมและเปลี่ยนแปลงของระดับไซโตไคน์และการตอบสนองของภูมิค้มกันการศึกษาที่ผ่ามา พบว่าวิตามินดีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสารไซโตไคน์ และระดับของสารไอพีเทน ผู้วิจัยจึงมีสมมุติฐานว่า ผลของการให้วิตามินตี มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับไซโตไคน์ใน ทีเฮลเปอร์ 1และ 2 สารไอพีเทน ทำให้การตอบสนองต่อการรักษาดีขึ้นวัตถุประสงค์ของงานวิจัย การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินดีต่อ การเปลี่ยนแปลงของสารไซโตไคน์ และระดับของสารไอพีเทน ในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีระเบียบวิธีการวิจัย การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงสุ่ม เปรียบเทียบระหว่างยาหลอกและยาวิตามินดี โดยสุ่มผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะขาดวิตามินดี ออกเป็น2กลุ่มได้แก่ กลุ่มที่ได้รับยาหลอกและยาวิตามินดี แต่ละกลุ่มจะได้เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการเจาะเลือด เพื่อตรวจระดับวิตามินดี ระดับไซโตไคน์และระดับของสารไอพีเทน ก่อนได้รับยาและหลังได้รับยา 6 สัปดาห์ ตลอดจนได้รับการซักประวัติตรวจร่างกายและตรวจผลทางห้องปฏิบัติการพื้นฐานก่อนได้รับยาผลการวิจัย ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีที่มีภาวะขาดวิตามินดี 80 คน ได้รับยาหลอกและยาวิตามินดีกลุ่มละ 40 คน ก่อนได้รับยาและหลังได้รับยา 6 สัปดาห์ ในกลุ่มที่ได้รับยาวิตามินดี มีระดับวิตามินดีเฉลี่ยเท่ากับ 20.88 และ 45.93 นาโนกรัม/เดซิลิตร ตามลำดับ (p<0.01) ขณะที่ในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับไซโตไคน์ทั้งหมด ระดับของสารไอพีเทนในทั้ง 2 กลุ่ม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน ยกเว้นระดับของสารไอพีเทนใน กลุ่มที่ยาวิตามินดี ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยความสัมพันธ์ของระดับวิตามินดีและระดับของสารไอพีเทน ในทิศทางเป็นลบ (r =-0.376,p<0.05)สรุป กาวศึกษาวิจัยในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าการให้วิตามิน และระดับวิตามินที่สูงขึ้นในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีมีผลทำให้ระดับของสารไอพีเทนลดลง โดยไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับไซโตไคน์ของทีเฮลเปอร์1และ2 ผลการศึกษา ดังกล่าว จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่อธิบายว่า ทำไมภาวะการขาดวิตามินดี ระดับของสารไอพีเทน และการให้วิตามินดี จึงมีผลต่อการตอบสนองการรักษาในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง
URL Website cuir.car.chula.ac.th
Chulalongkorn University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ