![]() |
การนำเเสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | การนำเเสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 |
Creator | สุภัชชา โพธิ์เงิน |
Contributor | ณรุทธ์ สุทธจิตต์ |
Publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Publication Year | 2554 |
Keyword | ดนตรี -- การศึกษาและการสอน (ประถมศึกษา), การเรียนรู้ |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาในการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 ด้านการจัดการเรียนรู้ตามสาระดนตรี และด้านการวัดและประเมินผลดนตรี 2) เพื่อศึกษาสาระดนตรี ทักษะดนตรีที่เป็นปัญหาในการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีของครู และสาระดนตรีที่ครูต้องการอบรมเพิ่มเติม โดยจำแนกตามสาขาวิชาเอกที่จบการศึกษา 3) เพื่อนำเสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรี ที่เหมาะสมกับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ครูสอนดนตรีระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 โรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร 3 สังกัด จำนวน 132 โรงเรียนและผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีศึกษา 2 ท่าน และครูที่สอนดนตรีที่คัดเลือกให้เป็นตัวแทนแต่ละสังกัดโรงเรียนจำนวน 9 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ จากแบบสอบถามจำนวน 132 ฉบับ ได้รับแบบสอบถามคืนมาจำนวน 111 ฉบับคิดเป็นร้อยละ 84.09 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน นำผลที่ได้จากแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และทฤษฎีทางดนตรีศึกษามาสังเคราะห์และพัฒนาเป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 ผลการวิจัยพบว่า 1) ครูส่วนใหญ่มีการจัดการเรียนรู้ตามสาระดนตรีโดยรวมอยู่ในระดับมาก (M = 3.84, S.D. = 1.02) สอนสาระดนตรีโดยคำนึงถึงความต่อเนื่องสัมพันธ์กันจากง่ายไปหายาก เน้นการปฏิบัติทักษะการฟังและการร้อง ครูสอนดนตรีส่วนใหญ่มีการวัดและประเมินผลครบทุกด้านทั้งเนื้อหาดนตรี ทักษะดนตรี และเจตคติดนตรี ระดับของปัญหาการวัดและประเมินผลดนตรีอยู่ในระดับน้อย (M = 2.07, S.D. = 1.52) แต่ในส่วนของทักษะดนตรีมีปัญหาในการวัดและประเมินผลมากที่สุด 2) เนื้อหาดนตรีที่เป็นปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มากที่สุดคือ องค์ประกอบดนตรีและศัพท์สังคีต ส่วนทักษะดนตรีที่เป็นปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มากที่สุดคือ ทักษะการร้องประสานเสียง เหมือนกันทั้งครูที่จบสาขาดนตรีและสาขาอื่น ๆ และเนื้อหาที่ครู ที่จบสาขาดนตรีต้องการอบรมมากที่สุดคือ การพัฒนาการสอนทักษะดนตรีในชั้นเรียน ส่วนครูที่จบสาขา อื่น ๆ มีความต้องการอบรมในเรื่องการสร้างสื่อการเรียนการสอนดนตรีมากที่สุด และ 3) รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 มีหลักการสำคัญ คือ ครูควรจัดการเรียนรู้โดยเน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติทักษะดนตรีเป็นหลัก สอดแทรกเนื้อหาสาระดนตรีประกอบเข้าไป ศึกษาเจตคติของผู้เรียนควบคู่ไปด้วย ไม่ควรมุ่งบรรยายอย่างเดียว ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางมีความครบถ้วนตามหลักทฤษฎีการศึกษาสาระดนตรี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารเวลา และการบริหารหลักสูตรของแต่ละโรงเรียน และในอนาคตควรเพิ่มสาระดนตรีอาเซียนเข้าไปในการจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 ด้วย ควรจัดการเรียนรู้วิชาดนตรีจำนวน 2 คาบต่อสัปดาห์ (60 นาที/คาบ) ในส่วนของการวัดและประเมินผล ควรมีการวัดและประเมินผลเจตคติดนตรีไม่น้อยไปกว่าเนื้อหาดนตรีและทักษะดนตรี นอกจากนี้จำเป็นต้องคำนึงถึงเกณฑ์และคุณภาพในการและประเมินผลด้วย |
URL Website | cuir.car.chula.ac.th |