|
ความเท่ในตราสินค้า ความรักในตราสินค้า และความผูกพันตราสินค้าตามมโนภาพแห่งตน ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างคุณค่าตราสินค้าในบริบทตราสินค้ากระเป๋าหรูหรา |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | จารุวรรณ นภาลัย |
| Title | ความเท่ในตราสินค้า ความรักในตราสินค้า และความผูกพันตราสินค้าตามมโนภาพแห่งตน ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างคุณค่าตราสินค้าในบริบทตราสินค้ากระเป๋าหรูหรา |
| Contributor | ชลธิดา แสวานี |
| Publisher | งานวารสาร มหาวิทยาลัยนครพนม |
| Publication Year | 2567 |
| Journal Title | วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม |
| Journal Vol. | 14 |
| Journal No. | 2 |
| Page no. | 83-98 |
| Keyword | ความเท่ในตราสินค้า, ความรักในตราสินค้า, ความผูกพันตราสินค้าตามมโนภาพแห่งตน, คุณค่าตราสินค้า, ตราสินค้ากระเป๋าหรูหรา |
| URL Website | https://so03.tci-thaijo.org/index.php/npuj |
| Website title | เว็บไซต์ระบบฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย |
| ISSN | 3057-1162 |
| Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยความเท่ในตราสินค้าที่มีอิทธิพลต่อความรักในตราสินค้าและความผูกพัน ตราสินค้าตามมโนภาพแห่งตน และศึกษาความรักในตราสินค้าและความผูกพันตราสินค้าตามมโนภาพแห่งตน ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างคุณค่าตราสินค้า ในบริบทตราสินค้าหรูหรา กลุ่มตัวอย่างในการศึกษานี้คือผู้ที่เคยใช้กระเป๋าตราสินค้าหรูหราในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 300 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงและแบบลูกโซ่ จากนั้นทำการวิเคราะห์โมเดลการวัดด้วยองค์ประกอบเชิงยืนยัน (CFA) พบว่า ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบ เชิงยืนยันมีความสอดคล้องดีถึงดีมาก ค่าน้ำหนักองค์ประกอบมีค่าระหว่าง 0.60 ถึง 0.91 ค่า CR มีค่าระหว่าง 0.69-0.93 ค่า AVE มีค่าระหว่าง 0.53-0.67 และค่าสัมประสิทธ์แอลฟาของครอนบาค มีค่าระหว่าง 0.73-0.98 แล้วทำการทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (SEM) ผลการวิจัยพบว่า 1) ความเท่ในตราสินค้ามีอิทธิพลเชิงบวกต่อความรักในตราสินค้า (β=0.80, t=5.18) และความผูกพันตราสินค้าตามมโนภาพแห่งตน (β=0.94, t=5.56) 2) ความรักในตราสินค้า (β=0.50, t=1.96) และความผูกพันตราสินค้าตามมโนภาพแห่งตน (β=0.88, t=4.07) มีอิทธิพลทางตรงต่อคุณค่าตราสินค้า โดยโมเดลสมการโครงสร้างนี้ สามารถอธิบายคุณค่าตราสินค้า ได้ถึงร้อยละ 94.20 ซึ่งงานวิจัยนี้จะช่วยเพิ่มพูนองค์ความรู้ และคุณค่าให้กับแวดวงการศึกษาการจัดการด้านการตลาด และองค์กรธุรกิจเอกชนเกี่ยวกับแนวทางในการช่วยสร้างตราสินค้าและสร้างความแข็งแกร่งให้กับตราสินค้าในกลุ่มตราสินค้าหรูหรา |
