|
การสำรวจแบบเร็วเรื่องความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | รังสรรค์ โฉมยา |
| Title | การสำรวจแบบเร็วเรื่องความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) |
| Contributor | กรรณิกา พันธ์ศรี |
| Publisher | งานวารสาร มหาวิทยาลัยนครพนม |
| Publication Year | 2565 |
| Journal Title | วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม |
| Journal Vol. | 12 |
| Journal No. | 3 |
| Page no. | 215-225 |
| Keyword | เพศสถานะ, ความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันโรค, ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (CoVid-19), สำรวจแบบเร็ว, พฤติกรรมการป้องกัน |
| URL Website | https://so03.tci-thaijo.org/index.php/npuj |
| Website title | เว็บไซต์ระบบฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย |
| ISSN | 2651-2467 |
| Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ และเพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ระหว่างตัวอย่างที่มีเพศแตกต่างกัน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงวัยที่สามารถตอบแบบสอบถามได้ จำนวน 21,891,425 คน ขนาดของกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ได้กำหนดโดยใช้ตาราง Isarael จำนวน 400 คน หลังจากนั้นทำการเลือกตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย ซึ่งตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยมี จำนวน 568 คน จากทุกจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เครื่องมือที่ใช้ในกาวิจัย ได้แก่ แบบวัดความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรม มีค่าความเชื่อมั่นโดยวิธีสัมประสิทธิ์แอลฟา เท่ากับ .80 สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1) ความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จัดอยู่ในระดับสูงทั้งในภาพรวมและรายด้าน ยกเว้นพฤติกรรมการล้างมือและพฤติกรรมการรักษาระยะห่างทางสังคมที่จัดอยู่ในระดับปานกลาง 2) พฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ระหว่างตัวอย่างเพศชายและเพศหญิงมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยเพศหญิงมีค่าเฉลี่ยของพฤติกรรมการป้องกันการติดต่อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (ทั้งในภาพรวมและพฤติกรรมย่อย 5 พฤติกรรม) สูงกว่าเพศชายทุกพฤติกรรม ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัยสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาความตระหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันโรคติดต่อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ของตัวอย่างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย |
