![]() |
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและกระบวนการการแก้ปัญหาจากการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | จันทร์ ติยะวงศ์ |
Title | การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและกระบวนการการแก้ปัญหาจากการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 |
Publisher | มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ |
Publication Year | 2567 |
Journal Title | วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ |
Journal Vol. | 13 |
Journal No. | 2 |
Page no. | 93-103 |
Keyword | การจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือเทคนิค LT, ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน |
URL Website | https://so01.tci-thaijo.org/index.php/NBU |
ISSN | 2286-8860 |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือเทคนิค LT ก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับเกณฑ์ 75% 2) เปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนกับคะแนนเกณฑ์ 75% ใช้รูปแบบวิจัย One group pretest-posttest design กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 23 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนโคราชพิทยาคม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) จากประชากร 35 คน ที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนดังกล่าว เครื่องมือที่ใช้ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน มีความเหมาะสม (X= 4.53, S.D. = 0.54) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องทรงกลมเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.80 ถึง 1 จากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน มีค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.86 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.83 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับโดยวิธีของ Lovett = 0.91 และ3) แบบประเมินกระบวนการการแก้ปัญหามีความเหมาะสมในระดับมาก (X= 4.65, S.D. = 0.48) ค่าความเที่ยงทั้งฉบับโดยวิธีของ Cronbach’s Alpha เท่ากับ 0.78 และมีค่าเฉลียประเมินความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน เป็น 4.65 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.48 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ สถิติทดสอบ t (t-test)ผลการวิจัยพบว่า1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือเทคนิค LT หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ 75% อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .012) คะแนนกระบวนการการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือเทคนิค LT สูงกว่าคะแนนเกณฑ์ 75% อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 |