![]() |
ผลกระทบต่อมิติด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากการออกมาตรการของฝ่ายปกครองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | มาณพ ประวาลลัญฉกร |
Title | ผลกระทบต่อมิติด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากการออกมาตรการของฝ่ายปกครองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 |
Publisher | สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย |
Publication Year | 2565 |
Journal Title | วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย |
Journal Vol. | 17 |
Journal No. | 62 |
Page no. | 1 |
Keyword | มาตรการของฝ่ายปกครอง, การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, ผลกระทบต่อมิติด้านเศรษฐกิจและสังคม |
URL Website | https://so05.tci-thaijo.org/index.php/researchjournal-lru |
Website title | วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย |
ISSN | 2774-1109 |
Abstract | บทความวิชาการเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัญหาทางกฎหมายที่เกิดจากการออกมาตรการของฝ่ายปกครองที่เป็นมาตรการในการป้องและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อมิติทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในประเด็นเรื่องหลักความได้สัดส่วนของการออกมาตรการ และหลักเกณฑ์วิธีที่ใช้ในการพิจารณาก่อนที่จะออกมาตรการในการป้องและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการศึกษาข้อมูลได้ข้อสรุปว่า 1) การดำเนินการเพื่อเป็นการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ถือว่าเป็น "กิจกรรมทางปกครอง" ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชนที่ดำเนินการโดย "ฝ่ายปกครอง" ไปออกมาตรการต่างๆ และมีผลบังคับทั่วไปออกไปสู่ประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็น "การกระทำทางปกครอง" ที่เรียกว่า "การออกกฎของฝ่ายปกครอง" จึงต้องอยู่ภายใต้หลักความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำทางปกครองที่สามารถควบคุมตรวจสอบได้ 2) พบว่าหลักเกณฑ์วิธีที่ใช้ในการพิจารณาก่อนที่จะออกมาตรการต่างๆ นั้นยังไม่มีหลักเกณฑ์แนวทางที่ชัดเจนก่อนที่จะออกมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการที่มีผลบังคับออกไปสู่ประชาชน 3) การกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้หลักแห่งความได้สัดส่วน ถือว่าส่วนใหญ่เป็นไปตามหลักแห่งความได้สัดส่วน โดยมีประเด็นปัญหาคือ การนำพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาใช้เป็นเครื่องมือในกำหนดมาตรการต่างๆ ถือว่าไม่ได้หลักแห่งความเหมาะสม จึงทำให้มีผู้เห็นต่างจำนวนหนึ่ง และทำให้บทบาทของกระทรวงสาธารณสุขที่ควรจะเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาลดน้อยลง ข้อเสนอแนะ ควรมีการตรากฎหมายกลางขึ้นมาวางหลักให้การใช้อำนาจตามกฎหมายฉบับใดก็ตามที่เกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายกลางที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาก่อนที่จะออกมาตรการใดๆมาบังคับใช้ รวมถึงให้มาตรการต่างๆ ที่ออกมาจะต้องมีการประเมินถึงผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจและสังคมภายใต้หลักแห่งความได้สัดส่วนก่อนที่จะออกมาตรการนั้นมาบังคับใช้เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสังคมที่เป็นอยู่ |