![]() |
ปัจจัยที่ส่งผลต่อทัศนคติในการเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย ในเขตกรุงเทพมหานครในช่วงก่อนและระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และแนวทางการปรับตัวของบริษัทนำเที่ยว |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | เมธาวี กิจเกษตรกุล |
Title | ปัจจัยที่ส่งผลต่อทัศนคติในการเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย ในเขตกรุงเทพมหานครในช่วงก่อนและระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และแนวทางการปรับตัวของบริษัทนำเที่ยว |
Contributor | ณัฐสินี ชินธนภูมิไพศาล |
Publisher | สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย |
Publication Year | 2565 |
Journal Title | วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย |
Journal Vol. | 17 |
Journal No. | 61 |
Page no. | 56 |
Keyword | ทัศนคติ, บริษัทนำเที่ยว, ไวรัสโคโรนา 2019 |
URL Website | https://so05.tci-thaijo.org/index.php/researchjournal-lru |
Website title | วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย |
ISSN | 2774-1109 |
Abstract | การวิจัยนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาระดับปัจจัยด้านประชากรศาสตร์และพฤติกรรมที่ส่งผลต่อทัศนคติในการเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยในเขตกรุงเทพมหานครในช่วงก่อนและระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลด้านประชากรศาสตร์และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยในเขตกรุงเทพมหานครที่มีต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวในช่วงก่อนและระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 3) เพื่อศึกษาถึงแนวทางการปรับตัวของบริษัทนำเที่ยวในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เคยเดินทางท่องเที่ยวหรือเคยใช้บริการธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงก่อนและระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 โดยงานวิจัยนี้เป็น งานวิจัยแบบผสม (Mixed method) ระหว่างวิจัยเชิงปริมาณและวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ทางผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลคือ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร มีอายุตั้งแต่ 21-60 ปี จำนวน 400 คน และผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว จำนวน 10 คน โดยใช้วิธีเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ผลการวิจัยพบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 64.50 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 50.00 ส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 51.50 และส่วนใหญ่มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 40,001- 60,000 บาท ร้อยละ 38.00 ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ พนักงานบริษัทเอกชน/ รับจ้าง ร้อยละ 48.30 พฤติกรรมการเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้บริการบริษัทนำเที่ยวจำนวน 2 ครั้งต่อปี ร้อยละ 47.00 ถัดมา วัตถุประสงค์ส่วนใหญ่ในการเลือกใช้บริการบริษัทนำเที่ยวของนักท่องเที่ยวคือเพื่อความสะดวกสบาย ร้อยละ 40.00 ถัดมา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้บริการบริษัทนำเที่ยว และมักจะเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัว ร้อยละ 45.00 ถัดมา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ค้นหาหรือรับรู้ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนำเที่ยวจากแหล่งข้อมูลหนังสือพิมพ์ ใบปลิว ร้อยละ 52.50 ถัดมา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้ตัวแทนขายในการจองหรือซื้อบริการบริษัทนำเที่ยว ร้อยละ 52.00 และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้งบประมาณ 5,001-10,000 บาท ในการใช้บริการบริษัทนำเที่ยว (ภายในประเทศ) แต่ละครั้ง ร้อยละ 40.50 ปัจจัยด้านทัศนคติในช่วงก่อนและระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ในภาพรวม พบว่า การปฏิบัติตน มีค่าเฉลี่ยของปัจจัยด้านทัศนคติก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ที่ 3.86 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.13 และหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ที่ 3.99 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.99 ถัดมา ความเชื่อมั่น มีค่าเฉลี่ยของปัจจัยด้านทัศนคติก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ที่ 3.56 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.08 และหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ที่ 3.77 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.04 และ ความรู้ความเข้าใจ มีค่าเฉลี่ยของปัจจัยด้านทัศนคติก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ที่ 3.37 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.00 และหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ที่ 3.70 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.03 ตามลำดับ และแนวทางการปรับตัวของบริษัทนำเที่ยวในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 พบว่า ผู้ประกอบการต้องมีการเตรียมความพร้อมต่อการจัดการความเสี่ยง การบริการการท่องเที่ยว สายการบิน หรือโรงแรม อาจมีการปรับปรุงการให้บริการโดยมุ่งเน้นด้านสุขภาพ และการใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกรรมออนไลน์ต่างมากขึ้นยิ่งขึ้น |