การออกแบบ สร้าง และประเมินสมรรถนะเครื่องย่อยกิ่งไม้ที่ใช้จานตัด 2 ใบมีด 3 ใบมีด และ 4 ใบมีด
รหัสดีโอไอ
Creator ประเสริฐ วิโรจน์ชีวัน
Title การออกแบบ สร้าง และประเมินสมรรถนะเครื่องย่อยกิ่งไม้ที่ใช้จานตัด 2 ใบมีด 3 ใบมีด และ 4 ใบมีด
Contributor ณทพร จินดาประเสริฐ, ฐณพล เวียงทอง, ปฎิภาณ ถิ่นพระบาท
Publisher มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
Publication Year 2568
Journal Title วารสารวิชาการและวิจัย มทร.พระนคร สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Journal Vol. 19
Journal No. 1
Page no. 93-103
Keyword กิ่งไม้, เครื่องย่อยกิ่งไม้, จานตัด, ใบมีด
URL Website https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RMUTP
Website title วารสารวิชาการและวิจัย มทร.พระนคร สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ISSN 3027-8260
Abstract งานวิจัยฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อออกแบบ สร้าง และประเมินสมรรถนะเครื่องย่อยกิ่งไม้ขนาดเล็กที่มีความสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ทำการศึกษาผลของจำนวนใบมีดที่มีต่อความสามารถในการย่อยกิ่งไม้ ทดสอบกับการย่อยกิ่งไม้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 70 มิลลิเมตร โดยใช้กิ่งไม้สดและกิ่งไม้แห้งปริมาณ 15 กิโลกรัม ต่อการทดสอบ และใช้ชุด จานตัด 2 ใบมีด 3 ใบมีด และ 4 ใบมีด คมของใบมีดตัด 45 องศา ความยาวของใบมีด 105 มิลลิเมตร ทำการทดสอบที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ 3,400 รอบต่อนาที ผลการทดสอบพบว่า เครื่องย่อยกิ่งไม้สามารถย่อยกิ่งไม้สดได้เร็วกว่ากิ่งไม้แห้งและการเพิ่มจำนวนใบมีดตัดทำให้อัตราการย่อยกิ่งไม้ลดลง โดยอัตราการย่อยกิ่งไม้สดและกิ่งไม้แห้งของจานตัด 2 ใบมีด อยู่ที่ 274.3 และ 221.4 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ตามลำดับ จานตัด 3 ใบมีด สามารถย่อยกิ่งไม้สดและกิ่งไม้แห้งได้ในอัตราการย่อยที่ 250 และ 216.3 กิโลกรัมต่อชั่วโมง และในส่วนของจานตัด 4 ใบมีด สามารถย่อยกิ่งไม้สดและกิ่งไม้แห้งได้ในอัตราการย่อยที่ 221.7 และ 178.6 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ตามลำดับ แต่การเพิ่มจำนวนใบมีดส่งผลให้เศษไม้หลังผ่านการย่อยมีขนาดเล็กและละเอียดมากกว่า ขนาดสูงสุดของเศษไม้หลังผ่านการย่อยอยู่ที่ 15x25, 10x15 และ 7x10 มิลลิเมตร สำหรับจานตัด2 ใบมีด 3 ใบมีด และ 4 ใบมีด ตามลำดับ และพบว่าอัตราการย่อยกิ่งไม้ของเครื่องย่อยกิ่งไม้ที่ใช้จานตัด 4 ใบมีด มีค่าน้อยกว่าเครื่องย่อยกิ่งไม้ที่ใช้จานตัด 2 ใบมีด
วารสารวิชาการและวิจัย มทร.พระนคร

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ