![]() |
การใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียดของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | ชลธิชา แก้วมี |
Title | การใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียดของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น |
Contributor | ณปภัช วชิรกลิ่นขจร, กัณฑริภา ศิริธนาพานิชกุล, ปรีดีชา จรัลพงษ์, สุริยา จันทกูล |
Publisher | Department of Strategics for Improving Education Quality, Surindra Rajabhat University |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | Journal of Academic Surindra Rajabhat |
Journal Vol. | 3 |
Journal No. | 3 |
Page no. | 107-124 |
Keyword | การออกกำลังกายเชิงกีฬา, เทคโนโลยีติดตามผล |
URL Website | https://so10.tci-thaijo.org/index.php/jasrru |
Website title | Journal of Academic Surindra Rajabhat |
ISSN | ISSN 2822-0889 |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาผลของการใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลต่อระดับความเครียดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (2) ศึกษาผลของโปรแกรมดังกล่าวต่อสุขภาพจิตของนักเรียน (3) เปรียบเทียบผลการลดระดับความเครียดและการส่งเสริมสุขภาพจิตระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมกับกลุ่มควบคุม และ (4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลจากเทคโนโลยีติดตามผลการออกกำลังกาย เช่น จำนวนก้าว แคลอรี่ที่ใช้ และอัตราการเต้นของหัวใจ กับระดับความเครียดและสุขภาพจิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประชากรกลุ่มเป้าหมายของการวิจัยประกอบด้วยนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 โรงเรียนวัดหนองใหญ่ สำนักงานเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 407 คน แบ่งเป็นนักเรียนชาย 214 คน และนักเรียนหญิง 193 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษานี้ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) จากประชากรทั้งหมด โดยคัดเลือกจำนวน 60 คน (เพศชาย 30 คน และเพศหญิง 30 คน) และสุ่มแบ่งออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มทดลองได้รับการเข้าร่วมโปรแกรมการออกกำลังกายเชิงกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล จำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ พร้อมการใช้เทคโนโลยีติดตามผลผ่านอุปกรณ์สมาร์ตวอทช์และแอปพลิเคชันที่ใช้ในการประเมินระดับความเครียดและสุขภาพจิต เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามวัดความเครียด Perceived Stress Scale (PSS) และแบบสอบถามวัดสุขภาพจิต Mental Health Inventory (MHI) ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ โดยผู้เชี่ยวชาญและมีค่าความเชื่อมั่น (Cronbach’s Alpha) เท่ากับ .89 และ .91 ตามลำดับ การเก็บข้อมูลดำเนินการสองครั้ง ได้แก่ ก่อนทดลอง (Pre-test) และหลังทดลอง (Post-test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบ t-test และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์แบบ Pearson’s Correlation ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มทดลองมีระดับความเครียดลดลงจากค่าเฉลี่ย 28.4 เหลือ 18.6 (ลดลง 34.5%) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ขณะที่กลุ่มควบคุมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.750) ด้านสุขภาพจิต กลุ่มทดลองมีคะแนนเพิ่มขึ้นจาก 55.2 เป็น 70.3 (เพิ่มขึ้น 27.4%) อย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.001) ขณะที่กลุ่มควบคุมมีคะแนนลดลงเล็กน้อย (p = 0.420) นอกจากนี้ ยังพบความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับความเครียดกับสุขภาพจิต (r = -0.72, p < 0.001) จากข้อมูลเทคโนโลยีติดตามผล พบว่ากลุ่มทดลองมีจำนวนก้าวเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 3,800 เป็น 6,200 ก้าว อัตราการเต้นของหัวใจลดลงจาก 85 เป็น 70 ครั้งต่อนาที และแคลอรี่ที่เผาผลาญเพิ่มจาก 250 เป็น 500 กิโลแคลอรี่ โดยทั้งหมดมีความสัมพันธ์เชิงลบกับระดับความเครียดอย่างมีนัยสำคัญ (r = -0.72, -0.68 และ -0.65 ตามลำดับ, p < 0.001) จากผลการศึกษาสรุปได้ว่า การใช้โปรแกรมออกกำลังกายเชิงกีฬาร่วมกับเทคโนโลยีติดตามผลเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิตของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นกิจกรรมในสถานศึกษา เพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตของนักเรียนในระยะยาว และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ในการติดตามพฤติกรรมสุขภาพของเยาวชนต่อไป |