การเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2539-2559
รหัสดีโอไอ
Creator จุลจิลา หินจำปา
Title การเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2539-2559
Contributor เลิศชัย เจริญธัญรักษ์
Publisher สถาบันวิจัย จัดการความรู้ และมาตรฐานการควบคุมโรค
Publication Year 2560
Journal Title วารสารควบคุมโรค
Journal Vol. 43
Journal No. 4
Page no. 342-355
Keyword ระบาดวิทยา, ไข้เลือดออก, กรุงเทพมหานคร
URL Website https://www.tci-thaijo.org/index.php/DCJ
Website title เว็บไซต์วารสารควบคุมโรค
ISSN 1685-6481
Abstract การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบการเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาของ โรคไข้เลือดออกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และหาความสัมพันธ์ระหว่างการป่วยกับสภาพภูมิอากาศ ประชากรศึกษา คือ ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั้ง 3 รหัสโรค (26, 27 และ 66) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2539 - 30 กันยายน 2559 โดยศึกษาจากข้อมูลรายงานผู้ป่วยทางระบาดวิทยา และข้อมูลสภาพภูมิอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน อัตรา อัตราส่วนและสหสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก รวม 192,613 ราย อัตราป่วย 35.47-461.19 ต่อประชากรแสนคนต่อปี อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0-0.18 สัดส่วน อัตราป่วยในกลุ่ม 15 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ส่วนกลุ่ม 10-14 ปี คงที่ และกลุ่ม ?9 ปี แนวโน้มลดลง ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเพิ่มของอายุเฉลี่ยผู้ป่วยและอายุเฉลี่ยประชากร (r = -0.22, 95% CI = -0.69 to 0.38, p=0.47) อัตราส่วนผู้ป่วยเพศชายสูงกว่าเพศหญิง รูปแบบการระบาดก่อนปี พ.ศ. 2548 เป็นแบบสองปีเว้นสองปี หลังจากนั้นรูปแบบไม่แน่นอน การระบาดตามฤดูกาลช้าลงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 จากเดิม ที่มีอัตราป่วยต่ำสุดเดือนเมษายนเลื่อนเป็นเดือนพฤษภาคม อัตราป่วยเริ่มสูงจากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนกรกฎาคม อัตราป่วยมีความสัมพันธ์เชิงเส้นกับปริมาณน้ำฝน (r = 0.18, 95% CI = 0.05 to 0.29, p=0.01) อุณหภูมิ (r = -0.18, 95% CI = -0.30 to -0.06, p=0.00) และความชื้นสัมพัทธ์ (r = 0.20, 95% CI = 0.08 to 0.32, p=0.00) ในเชิงพื้นที่พบเขตที่ระบาดซ้ำซากทุกปี จำนวน 35 เขต และอัตราป่วยรายเขตมีความสัมพันธ์เชิงเส้น กับความหนาแน่นประชากร (r = 0.08, 95% CI = 0.01 to 0.16, p=0.03) แต่ละปีพบผู้ป่วย DHF มากที่สุด (ร้อยละ 51.26-92.59) รองลงมาคือ DF (ร้อยละ 6.69-48.49) และ DSS (ร้อยละ 0.25-0.83) ช่วงปี พ.ศ. 2552-2559 พบว่า สัดส่วนผู้ป่วย DF มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ DHF ลดลง หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงควรเร่งดำเนินการป้องกันควบคุมโรคให้สอดคล้องกับฤดูการระบาดที่เปลี่ยนไป ควรมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในพื้นที่ระบาดซ้ำซาก แพทย์ต้องตระหนักและคำนึงถึงโรคไข้เลือดออกในผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่มากขึ้น รวมถึงควรระวัง ผู้ป่วย DF ที่อาจมีอาการไม่ชัดเจน
กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ