![]() |
การประกอบสร้างความหมายของข่าว: กรณีศึกษา “นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต” ของรัฐบาล |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | การประกอบสร้างความหมายของข่าว: กรณีศึกษา “นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต” ของรัฐบาล |
Creator | ภานุพงษ์ รำเพย |
Contributor | เกศราพร ทองพุ่มพฤกษา, ที่ปรึกษา |
Publisher | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
Publication Year | 2567 |
Keyword | การประกอบสร้างความหมาย, ข่าว, นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต, Construction of meaning, News, The government’s 10,000 Baht digital wallet scheme |
Abstract | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการประกอบสร้างความหมายของข่าว “นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต” ในช่องทางยูทูบขององค์กรสื่อโทรทัศน์สาธารณะ (สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส) และองค์กรสื่อโทรทัศน์ที่ดำเนินธุรกิจโดยเอกชน (สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3) โดยเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ที่ใช้การวิเคราะห์ตัวบทคลิปข่าวรวมจำนวนทั้งสิ้น 97 ชิ้น ซึ่งเผยแพร่ระหว่างวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ทั้งนี้ผลการวิจัยพบว่าการประกอบสร้างความหมายของข่าวถูกประประกอบสร้างผ่าน 6 องค์ประกอบหลักคือ ประเด็นข่าว ทิศทางการนำเสนอ แหล่งข่าว รูปแบบการนำเสนอ กลวิธีการใช้ภาษา และกลวิธีด้านภาพ ผลการวิจัยพบว่าประเด็นข่าวที่นำเสนอมีจำนวน 8 ประเด็น ได้แก่ แหล่งที่มาของเงินงบประมาณ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ข้อกังวลของผู้เชี่ยวชาญ ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการและคุณสมบัติ แอปพลิเคชันที่นำมาใช้ในโครงการ ประโยชน์ของโครงการ ความคืบหน้าของโครงการ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้พบว่าประเด็นที่ได้รับการนำเสนอมากที่สุด 3 อันดับแรกคือข้อกังวลของผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ นักการเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แหล่งที่มาของเงินงบประมาณ และคุณสมบัติของประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการ ขณะที่ทิศทางพบว่ามี 3 ประเภท คือทิศทางบวก ทิศทางลบ และทิศทางกลาง ซึ่งทั้งสองสถานีนำเสนอข่าวในทิศทางกลางมากที่สุด สะท้อนให้เห็นว่าสื่อมวลชนทั้งสองสถานีพยายามรักษาจุดยืนที่เป็นกลาง โดยนำเสนอข้อมูลอย่างรอบด้านมากกว่าการแสดงจุดยืนสนับสนุนหรือคัดค้านโครงการอย่างชัดเจน ในส่วนแหล่งข่าวพบว่ามีการใช้แหล่งข่าวปฐมภูมิทั้งหมด โดยทั้งสองสถานีให้ความสำคัญกับแหล่งข่าวบุคคลมากกว่าแหล่งข่าวเอกสาร ส่วนรูปแบบการนำเสนอพบว่ารายการข่าวเป็นรูปแบบที่ถูกใช้มากที่สุดในทั้งสองสถานี ด้านกลวิธีการใช้ภาษาพบว่าเน้นการรายงานตามข้อเท็จจริงโดยแทรกความคิดเห็นน้อยและใช้ภาษาที่เป็นกลางไม่สอดแทรกอารมณ์ความรู้สึกและใช้น้ำเสียงเคร่งขรึมจริงจังในการรายงาน และสำหรับกลวิธีด้านภาพพบว่าใช้ภาพจริงมากกว่าภาพกราฟิก โดยสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เน้นภาพเหตุการณ์จริง ส่วนสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจะใช้กราฟิกเพื่ออธิบายข้อมูล มุมกล้องระดับสายตาและภาพมุมกว้างเป็นขนาดภาพที่ใช้มากที่สุด สะท้อนความพยายามคงความเป็นกลาง ทั้งนี้งานวิจัยนี้ยังชี้ให้เห็นถึงแนวทางการประกอบสร้างความหมายของข่าวที่ต่างกันตามบทบาทของสื่อ โดยสื่อสาธารณะเน้นการให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ขณะที่สื่อธุรกิจเน้นการดึงดูดความสนใจของผู้ชมภายใต้หลักความเป็นกลาง |