การพัฒนาหลักสูตรเสริมเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยนกลุ่มรายวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการ
รหัสดีโอไอ
Title การพัฒนาหลักสูตรเสริมเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยนกลุ่มรายวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการ
Creator วีรพล แก้วพันธ์อ่ำ
Publisher มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์
Publication Year 2564
Keyword การพัฒนาหลักสูตร, การคิดเชิงปรับเปลี่ยน, การจัดการเรียนรู้, กลุ่มรายวิชาธุรกิจ, ผู้ประกอบการ, นักเรียน
Abstract ความมุ่งหมายแห่งการวิจัยในครั้งนี้สําคัญ คือ การมุ่งเขยิบมิติการจัดการเรียนรู้โดยใช้พื้นที่รายวิชา ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่ง ณ ขณะที่ผู้วิจัยพัฒนางานวิจัยนับเป็นปีแรกที่หลักสูตรธุรกิจและการ เป็นผู้ประกอบการของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกพัฒนาขึ้น ผู้วิจัยจึงมุ่งแสวงหาแนวทางการพัฒนา โดยใช้งานวิจัยฉบับนี้เป็นตัวเปิดประตูในการค้นหาวิถีการจัดการเรียนรู้ที่ผสานกับศาสตร์ การวิจัยทางหลักสูตร โดยการวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรเสริมและศึกษาประสิทธิผลหลักสูตรเสริมเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยน สําหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอน ปลาย โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยวิธีการดําเนินการวิจัยทางหลักสูตร โดยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เพื่อตรวจสอบยืนยันนิยามองค์ประกอบ พฤติกรรมบ่งชี้ในแต่ละองค์ประกอบและแนวทางในการพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนาหลักสูตรและแผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งได้รับการตรวจสอบความเหมาะสมโดย ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการตรวจสอบความเป็นไปได้ของหลักสูตรโดยการทดสอบนําร่องร่างหลักสูตร (Pilot study) ก่อนนํามาใช้กับนักเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคัดเลือกลุ่มตัวอย่างนี้มี คุณลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่มตัวอย่างจริงของผู้วิจัย ขั้นตอนที่ 3 การนําหลักสูตรที่ผ่านการพัฒนาและ ทดลองแล้วไปใช้ กับนักเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาค เรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จํานวน 20 คน ที่สนใจกลุ่มวิชาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ในรายวิชา พฤติกรรมผู้บริโภค โดยใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้รวมทั้งสิ้น 10 ชั่วโมง ขั้นตอนที่ 4 การประเมินและ ปรับปรุงหลักสูตร โดยมีเกณฑ์ในการประเมินประสิทธิผลดังนี้ 1) ความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยนของนักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ตามหลักสูตรเสริมความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยนสําหรับนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเพิ่มขึ้นตามช่วงระยะเวลาและมอบหมายสถานการณ์เงื่อนไขที่มีความ ซับซ้อนขึ้น 2) ความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยนของนักเรียนภายหลังการเรียนรู้ ตามหลักสูตรเสริม ความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยนสําหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พัฒนาขึ้นและสามารถบูรณาการใช้กับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวันได้ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. การวิจัยพัฒนาหลักสูตรเสริมนี้ ผู้วิจัยพบว่าองค์ประกอบของความสามารถในการคิดเชิง ปรับเปลี่ยน (Shifting) ที่ผู้วิจัยทําการสังเคราะห์พบองค์ประกอบพบว่าประกอบไปด้วย 1) ความสามารถใน การเข้าใจอย่างสร้างสรรค์ 2) ความคิดสร้างสรรค์เพื่อการตัดสินใจ และ 3) การตัดสินใจอย่างเข้าใจ 2. ประสิทธิผลหลักสูตรเสริมความสามารถในการคิดเชิงปรับเปลี่ยนสําหรับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนปลาย ได้ผลดังนี้ 2.1 นักเรียนมีพัฒนาการด้านการคิดเชิงปรับเปลี่ยน โดยอาจารย์ผู้สอนเป็นผู้ประเมิน พัฒนาการจากการทํากิจกรรมครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 พบว่าระดับความสามารถเพิ่มขึ้นตามลําดับ จากการสังเกตการณ์ทํากิจกรรมพบว่า การเรียนรู้ผ่านสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นรอบตัว สามารถวิเคราะห์ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ธุรกิจนํามาปรับใช้เพื่อกําหนดพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน สร้างสรรค์ มีหลักฐานประกอบการอธิบาย มีเหตุผล สะท้อนการเชื่อมโยงหลักการสําคัญทางทฤษฎีสู่สถานการณ์ความเป็นจริงได้ 2.2 กิจกรรมการเรียนรู้ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีพฤติกรรมที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดเชิง ปรับเปลี่ยน (Shifting) ผู้วิจัยมีการทดสอบทั้งในเชิงปริมาณและในเชิงคุณภาพพบว่าเกณฑ์พัฒนาการของ ผู้เรียนอยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.00 และจากการสังเกตพบว่าผู้เรียนสามารถนําเสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่างและสร้างสรรค์ไปจากเดิมได้และจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ผ่านการทํา กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านสถานการณ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง พบว่า 1) ผู้เรียนสามารถนําความรู้จากเนื้อหา เรื่อง “ส่วนประสมทางการตลาด (Marketing Mix)” ซึ่งประกอบไปด้วยมุมมองผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) ช่องทางการจัดจําหน่าย (Place) และการส่งเสริมเสริมการตลาด (Promotion) มาใช้เป็นแนวทาง ในการวิเคราะห์สถานการณ์ รวมถึง 2) ผู้เรียนมีพฤติกรรมการทํางานผ่านการค้นหาข้อมูลและหลักฐานเชิง ประจักษ์เพื่อสนับสนุนมุมมองความเข้าใจของตนเอง โดยผลผลิตทางการเรียนรู้ที่ได้จะสอดคล้องกับ ประสบการณ์และบริบทที่ผู้เรียนแต่ละคนพบ เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้รายบุคคล (Personalized learning) ตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียน
Language TH
URL Website https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:334247
Website title https://digital.library.tu.ac.th
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ