![]() |
แนวทางการปฏิบัติและเตรียมความพร้อมของกองเรือพาณิชย์ไทยเพื่อรองรับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการควบคุมและจัดการน้ำอับเฉาเรือและตะกอนปี ค.ศ.2004 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | แนวทางการปฏิบัติและเตรียมความพร้อมของกองเรือพาณิชย์ไทยเพื่อรองรับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการควบคุมและจัดการน้ำอับเฉาเรือและตะกอนปี ค.ศ.2004 |
Creator | เอกบุรุษ ช้างใหญ่ |
Contributor | กฤษณา วิสมิตะนันทน์ |
Publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Publication Year | 2555 |
Keyword | เรือพาณิชย์, การขนส่งสินค้า, อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการควบคุมและจัดการน้ำอับเฉาเรือและตะกอนปี ค.ศ.2004, Merchant ships, Commercial products -- Transportation |
Abstract | วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อรวบรวมข้อมูลในการเตรียมการปฏิบัติเพื่อรองรับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการควบคุมและจัดการน้ำอับเฉาเรือและตะกอน ปี ค.ศ.2004 และเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับบริษัทสายเรือของประเทศไทย โดยทำการวิจัยเชิงสำรวจกับกลุ่มตัวอย่าง ที่ปฏิบัติงานในบริษัทสายเรือของไทยจำนวน 8 บริษัท แบ่งออกเป็นกลุ่มบริษัทขนส่งสินค้าภายในประเทศและภูมิภาคใกล้เคียงและกลุ่มบริษัทเดินเรือขนส่งสินค้าทั่วโลกจำนวนอย่างละ 4 บริษัท ดำเนินการโดยใช้แบบสอบถามและการสัมภาษณ์กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเสนอแนวทางการปฏิบัติและเตรียมความพร้อม โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้นจำนวน 55 คน ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าบริษัทสายเรือต่างๆ ของไทยมีระดับความพร้อมและการเตรียมการปฏิบัติฯ ที่สามารถนำเสนอได้เป็น 4 ด้านสำคัญดังนี้ คือ 1) ด้านบุคลากร บุคลากรของไทยมีความรู้ในการจัดการน้ำอับเฉาเรืออยู่ในระดับที่ดี 2) ด้านงบประมาณ เฉพาะบริษัทเดินเรือขนส่งสินค้าทั่วโลกบางแห่งเท่านั้นที่มีการเตรียมการและมีความพร้อมด้านงบประมาณไว้ 3) ด้านตัวเรือ กองเรือพาณิชย์ของไทยมีความพร้อมด้านงานธุรการและการปฏิบัติในการเปลี่ยนถ่ายน้ำอับเฉาเรือแต่ยังขาดความพร้อมในการบำบัดน้ำอับเฉาเรือ และ 4) ด้านมาตรการ กลุ่มบริษัทเดินเรือภายในประเทศไม่ได้ให้ความสำคัญและขาดการเตรียมการที่ดีในขณะที่กลุ่มบริษัทเดินเรือทั่วโลกมีความตื่นตัวมาก จึงได้กำหนดมาตรการในหลายประเด็นและมีการปฏิบัติที่ต่อเนื่อง โดยมีการอบรมความรู้บุคลากร มีการเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคของเรือในกองเรือและบางแห่งมีการจัดหางบประมาณไว้เรียบร้อยแล้ว จากข้อมูลสถานภาพความพร้อมในปัจจุบันที่ได้จึงนำไปสู่การพัฒนาแนวทางฯ และนำไปให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็น โดยพิจารณาที่ตัวเกณฑ์ความสำคัญของแนวทางฯ และความง่ายในนำไปการปฏิบัติเพื่อจัดลำดับความเร่งด่วนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม |
URL Website | cuir.car.chula.ac.th |