การพัฒนามาตรฐานวิชาชีพผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลของกรมพลศึกษา
รหัสดีโอไอ
Title การพัฒนามาตรฐานวิชาชีพผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลของกรมพลศึกษา
Creator 1. ภัทราวุธ ขาวสนิท
2. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
Publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Publication Year 2554
Keyword ผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล, วิชาชีพ, เทคนิคเดลฟาย, การพัฒนาอาชีพ
Abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลของกรมพลศึกษา โดยเทคนิควิธีวิจัยแบบเดลฟาย ซึ่งได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการตัดสินกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย จำนวน 20 คน มีการดำเนินการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามปลายเปิดในรอบที่ 1 และใช้แบบสอบถามปลายปิดแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ในรอบที่ 2 และรอบที่ 3 จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลของรอบที่ 3 โดยการหาค่ามัธยฐาน (Median: Md) ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ (Interquartile range: IR) และค่าสัมบูรณ์ความแตกต่างระหว่างค่ามัธยฐานกับค่าฐานนิยม ซึ่งมีการกำหนดว่าข้อความที่นำไปใช้ต้องมีค่ามัธยฐานมากกว่าหรือเท่ากับ 3.50 มีค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.50 และมีค่าสัมบูรณ์ความแตกต่างระหว่างค่ามัธยฐานกับค่าฐานนิยมน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.00 ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนามาตรฐานวิชาชีพผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลของกรมพลศึกษา 3 ด้านมีรายละเอียดคือ 1. มาตรฐานด้านความรู้ ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันอยู่ในระดับมากที่สุด (Md=4.53, Md-Mo =0.47, IR=1.48) โดยต้องมีคุณวุฒิขั้นต่ำในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าโดยไม่จำกัดสาขาวิชา ผ่านการอบรมและทดสอบผ่านในเรื่องกฎกติกา สมรรถภาพทางกาย การฝึกและสอบปฏิบัติ คุณธรรมจริยธรรม จิตวิทยาสำหรับผู้ตัดสิน ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับฟุตบอล และโภชนาการ โดยในการอบรมควรมีผู้เข้ารับการอบรมประมาณ 21 – 30 คนในระดับมากที่สุด และประมาณ 31 – 40 คนในระดับมาก ในการอบรมแต่ละครั้งควรมีระยะเวลา 7 วัน 2. มาตรฐานด้านการปฏิบัติงาน ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันอยู่ในระดับมาก (Md=4.30, Md-Mo =0.70, IR=1.49) โดยในการรักษาสถานภาพนอกจากงานตัดสิน ต้องผ่านการปฏิบัติเรื่องการทดสอบสมรรถภาพ การประชุมผู้ตัดสินอย่างน้อยปีละ 6 ครั้ง การทดสอบทฤษฎีและปฏิบัติ และการฝึกซ้อมร่วมกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต้องตัดสินรายการของกรมพลศึกษาปีละ 21-30 ครั้ง ควรมีการเลื่อนระดับจากกีฬาขั้นพื้นฐานไปสู่กีฬามวลชนโดยต้องผ่านการทดสอบทฤษฎีและปฏิบัติ มีประสบการณ์ตัดสิน 1 ปี มีการบันทึกและประเมินการตัดสินอยู่ในเกณฑ์ดี และผ่านการทดสอบสมรรถภาพ 3. มาตรฐานด้านการปฏิบัติตน ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันอยู่ในระดับมากที่สุด (Md=4.74, Md-Mo =0.26, IR=0.95) โดยต้องมีความยุติธรรม ตรงต่อเวลา รักษาสมรรถภาพทางกายให้ดีอยู่เสมอ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีน้ำใจนักกีฬา มีความเด็ดขาด มีระเบียบวินัย มีสัมมาคารวะรู้จักกาลเทศะ ไม่ลุ่มหลงอบายมุข มีความรับผิดชอบ ให้เกียรติและยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี แต่งกายสะอาดเรียบร้อย มีภาวะผู้นำ ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ มีวิจารณญาณ มีความสนุกสนานในการปฏิบัติหน้าที่ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ไม่กล่าวร้ายผู้อื่น เป็นแบบอย่างที่ดี และมีสมาธิ
URL Website cuir.car.chula.ac.th
Chulalongkorn University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ