การศึกษาชีวกลศาสตร์ของระบบยึดตรึงกระดูกภายในแบบไฮบริด
รหัสดีโอไอ
Title การศึกษาชีวกลศาสตร์ของระบบยึดตรึงกระดูกภายในแบบไฮบริด
Creator พงศ์พร ประทีปทองคำ
Contributor พิบูลย์ อิทธิระวิวงศ์, ชัญญาพันธ์ วิรุฬศรี, ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ
Publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Publication Year 2554
Keyword ชีวกลศาสตร์, การตรึงกระดูกหักภายใน -- สมบัติทางกล
Abstract การรักษาภาวะกระดูกหักโดยการยึดตรึง( fixation)ด้วยการใช้ locking compression plate หรือconventional plate screw (DCP, LC-DCP) ซึ่งเป็นแนวทางที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน แต่แนวทางดังกล่าวยังมีข้อด้วยในเชิงระยะเวลาที่ผู้ป่วยต้อพักฟื้นก่อนกลับไปใช้ชีวิตปกติ จึงนำมาสู่ความพยายามในการปรับปรุงระบบการยึดตรึงกระดูกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยเพื่อทำการทดสอบคุณสมบัติทางชีวกลศาสตร์ของระบบยึดตรึงกระดูกภายในแบบไฮบริด(Hybrid internal fixation system)เมื่อเปรียบเทียบกับระบบที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันการศึกษานี้ทำการเปรียบเทียบกับระบบ locking compression plate ทำการศึกษาในกระดูกต้นขาอาจารย์ใหญ่ที่อุทิศร่างกายให้แก่การศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทาลัย อายุขณะเสียชีวิต 30 - 50 ปี การศึกษาเชิงทดลองเพื่อทำการศึกษาคุณสมบัติทางชีวกลศาสตร์โดยแบ่งการศึกษาออกเป็นการศึกษา static loading model และ fatique loading model ทำการศึกษาระบบยึดตรึงกระดูกภายในแบบไฮบริด(Hybrid internal fixation system)และระบบ locking compression plate ในกระดูกอาจารย์ใหญ่ 3 คู่ทำการทดสอบ static และfatique loading model เพื่อศึกษาการเคลื่อนที่(displacement)ของกระดูกเพื่อศึกษา irreversible deformity ที่เกิดขึ้น การเคลื่อนที่ของกระดูกที่ถูกยึดตรึงกระดูกแบบไฮบริด(Hybrid internal fixation system)ในภาวะ static(p=0.109)และcyclic(p = 0.785)และผล irresible deformity(p= 0.180) เมื่อเปรียบเทียบกับ ระบบ locking compression plateจากการศึกษาผลการทดสอบทางชีวกลศาสตร์พบว่าระบบ ยึดตรึงกระดูกภายในแบบไฮบริด(Hybrid internal fixation system)และระบบ locking compression plate ไม่พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(statistic significant)
URL Website cuir.car.chula.ac.th
Chulalongkorn University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ