การตรวจหาแกมีโตไซต์ของพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ ในกระแสเลือด โดยวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอร์เรส รีเวอร์ส ทรานสคริปชั่น
รหัสดีโอไอ
Title การตรวจหาแกมีโตไซต์ของพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ ในกระแสเลือด โดยวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอร์เรส รีเวอร์ส ทรานสคริปชั่น
Creator นภาพร กวมทรัพย์
Contributor สมชาย จงวุฒิเวศย์
Publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Publication Year 2554
Keyword มาลาเรีย
Abstract โรคมาลาเรียเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขในหลายประเทศทั่วโลก ในแต่ละปีมีผู้ป่วยมาลาเรียประมาณ 350 - 500 ล้านคน และเสียชีวิตประมาณ 1 ล้านคน ถึงแม้ว่าโรคมาลาเรียส่วนใหญ่จะเกิดจากการติดเชื้อพลาสโมเดียม ฟัลซิปารัม ซึ่งก่อให้เกิดอาการรุนแรงและมีอุบัติการณ์ก่อโรคมากกว่ามาลาเรียชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตามเชื้อพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ มีการแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์อย่างกว้างขวางและมีความสามารถในการก่อให้เกิดความเจ็บป่วยเรื้อรังและกลับมาเป็นซ้ำได้เนื่องจากการมีระยะพักตัวที่อยู่ในเซลล์ตับและเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการรุนแรงทางคลินิก สำหรับเป้าหมายของการจำกัดเชื้อมาลาเรียโดยการตัดขั้นตอนในการติดต่อของเชื้อนั้น ระยะแกมีโตไซต์ในกระแสเลือดของผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรียจึงเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับยาและวัคซีน ดังนั้นการประมาณการแพร่กระจายของระยะดังกล่าวจึงมีความสำคัญต่อการควบคุมโรค ถึงแม้ว่าวิธีการตรวจหาเชื้อภายใต้กล้องจุลทรรศน์ถือเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปทางห้องปฏิบัติการในการตรวจวินิจฉัยโรคมาลาเรีย แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการตรวจหาเชื้อในตัวอย่างที่มีปริมาณเชื้อต่ำกว่าการตรวจสอบภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ปัจจุบันได้มีการพัฒนานำเทคนิคทางชีวโมเลกุลมาใช้ในการตรวจหาแกมีโตไซต์ การศึกษานี้จึงได้พัฒนาวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอร์เรส รีเวอร์ส ทรานสคริปชั่น โดยใช้ยีนเป้าหมาย คือ พีวีเอส 25 เพื่อการตรวจหาแกมีโตไซต์ระยะที่ 5 ของเชื้อพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ โดยทำการเก็บตัวอย่างเลือดจำนวน 106 ตัวอย่าง จากผู้ป่วยติดเชื้อพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ ที่เข้ารับการรักษาจากมาลาเรียคลินิกในจังหวัดตาก จัดเป็นตัวอย่างในฤดูฝนจำนวน 49 ตัวอย่าง และในฤดูแล้งจำนวน 57 ตัวอย่าง โดยใช้อาร์เอ็นเอที่ถูกเตรียมจากเลือดที่เก็บในสารคงสภาพอาร์เอ็นเอและเลือดที่เก็บบนกระดาษกรอง ผลการศึกษาพบระยะแกมีโตไซต์ในกระแสเลือด จากการตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์จากฟิล์มเลือดชนิดหนาและชนิดบางที่ย้อมด้วยสียิมซ่าร้อยละ 56.0 และร้อยละ 52.38 ของผู้ที่ติดเชื้อพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ ในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับผลปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอร์เรส รีเวอร์ส ทรานสคริปชั่น ที่มีความจำเพาะต่อยีนพีวีเอส 25 ผลการตรวจพบร้อยละ 91.84 และร้อยละ 94.87 ของอาร์เอ็นเอจากตัวอย่างเลือดผู้ป่วยที่ติดเชื้อพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ ในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน ตามลำดับ โดยสรุปผลการตรวจหาแกมีโตไซต์ให้ผลบวกร้อยละ 93.18 จากการใช้อาร์เอ็นเอที่เตรียมจากเลือดที่เก็บในสารคงสภาพอาร์เอ็นเอ และร้อยละ 89.77 โดยวิธีการหยดเลือดบนกระดาษกรอง การวินิจฉัยความไวของการตรวจสอบยีนพีวีเอส 25 โดยวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอร์เรส รีเวอร์ส ทรานสคริปชั่น อาร์เอ็นเอที่ถูกเตรียมจากเลือดที่เก็บในสารคงสภาพอาร์เอ็นเอและเลือดที่เก็บบนกระดาษกรองไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 และพบว่าความชุกของแกมีโตไซต์ในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝนไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่เก็บรวบรวมในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน การศึกษาในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอร์เรส รีเวอร์ส ทรานสคริปชั่น มีความไวในการตรวจพบแกมีโตไซต์ของเชื้อพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ ได้ดีกว่าการตรวจสอบภายใต้กล้องจุลทรรศน์ จากตัวอย่างเลือดผู้ป่วยที่ถูกเก็บในสารคงสภาพอาร์เอ็นเอและบนกระดาษกรอง และพบความชุกสูงของแกมีโตไซต์ของเชื้อพลาสโมเดียม ไวแวกซ์ เกิดขึ้นทั้งในฤดูกาลที่มีการแพร่กระจายของเชื้อต่ำในช่วงฤดูแล้งและสูงในช่วงฤดูฝนจากพื้นที่ที่มีการแพร่กระจายของเชื้อในประเทศไทย
URL Website cuir.car.chula.ac.th
Chulalongkorn University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ