![]() |
การพัฒนารูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิกเพื่อสุขสมรรถนะสำหรับวัยรุ่นหญิงตอนต้น |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | การพัฒนารูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิกเพื่อสุขสมรรถนะสำหรับวัยรุ่นหญิงตอนต้น |
Creator | นฤป จักรปิง |
Contributor | ชัชชัย โกมารทัต |
Publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Publication Year | 2553 |
Keyword | แอโรบิก (กายบริหาร), การออกกำลังกายสำหรับสตรี, การออกกำลังกาย |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิกให้มีความเหมาะสมตามองค์ประกอบของการเต้นแอโรบิก และเพื่อเปรียบเทียบผลของการใช้รูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิกที่มีต่อสุขสมรรถนะ กลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัครนักเรียนหญิง โรงเรียนวัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ อายุระหว่าง 10 – 14 ปี จำนวน 35 คน วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 เป็นการพัฒนารูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิก และช่วงที่ 2 เป็นการศึกษาผลของการใช้รูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิก โดยการทดลองเต้นโรปสคิปปิ้งแอโรบิกเป็นเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการทดสอบสุขสมรรถนะ ก่อนการทดลอง หลังการทดลอง 4 สัปดาห์ และ 8 สัปดาห์โดยใช้แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพสำหรับเยาวชนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2552 ประกอบด้วย 5 รายการ คือ สัดส่วนของร่างกายด้วยการหาค่าดัชนีมวลกาย ความอ่อนตัววัดด้วยการนั่งงอตัวไปข้างหน้า ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อท้องทดสอบด้วยการลุก – นั่ง 1 นาที ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกายทดสอบด้วยการดันพื้น 30 วินาที ความอดทนของระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตทดสอบด้วยการวิ่งระยะทาง 1200 เมตร สำหรับนักเรียนหญิงอายุ 7 – 12 ปี หรือวิ่งระยะทาง 1600 เมตร สำหรับนักเรียนหญิงอายุ 13 – 18 ปี เพิ่มเติมด้วยการวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก วัดความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว และวัดความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว และสอบถามความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างหลังการทดลอง 4 สัปดาห์และหลังการทดลอง 8 สัปดาห์ นำข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมมาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวแบบวัดซ้ำ (One – way analysis of variance with repeated measures) และทดสอบความมีนัยสำคัญของความแตกต่างค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ โดยใช้วิธีของตูกี (เอ) ที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1.รูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิกที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ประกอบด้วยการกระโดดเชือกในท่าต่าง ๆ รวม 3 ขั้น ได้แก่ ขั้นอบอุ่นร่างกายมี 20 ท่า ใช้เวลา 6 นาที ขั้นปฏิบัติการมีท่าเต้นโรปสคิปปิ้งแอโรบิก 72 ท่า ใช้เวลา 18 นาที และขั้นผ่อนคลายมี 20 ท่า ใช้เวลา 6 นาที รวม 30 นาที มีค่าความตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.89 – 1.00 ซึ่งอยู่ในระดับดีมาก สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสุขสมรรถนะได้ 2.หลังการทดลอง 4 สัปดาห์ และหลังการทดลอง 8 สัปดาห์ที่ดีขึ้น กลุ่มตัวอย่างมีสุขสมรรถนะได้แก่ สัดส่วนของร่างกาย ความอ่อนตัว ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อท้อง ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกาย ความอดทนของระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก และความดันโลหิตที่ดีขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.หลังการทดลอง 8 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อการเต้นโรปสคิปปิ้งแอโรบิกในระดับมากที่สุด สรุปได้ว่า รูปแบบโรปสคิปปิ้งแอโรบิกที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีคุณภาพดีและสามารถนำไปใช้พัฒนา สุขสมรรถนะของวัยรุ่นหญิงตอนต้นได้ |
URL Website | cuir.car.chula.ac.th |