ความชุกของการขาดโปรตีนเรติโนบลาสโตมาจากการย้อมอิมมูโนฮิสโตเคมีสตรี้ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟ
รหัสดีโอไอ
Title ความชุกของการขาดโปรตีนเรติโนบลาสโตมาจากการย้อมอิมมูโนฮิสโตเคมีสตรี้ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟ
Creator ประคองบุญ สังฆสุบรรณ์
Contributor วิโรจน์ ศรีอุฬารพงศ์, นภา ปริญญานิติกูล
Publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Publication Year 2553
Keyword โปรตีนเรติโนบลาสโตมา, ฟอสโฟโปรตีน, อิมมูโนฮีสโตเคมี -- เทคนิค, เต้านม -- มะเร็ง -- สมุฏฐานวิทยา, Retinoblastoma protein, Phosphoproteins, Immunohistochemistry -- Technique, Breast -- Cancer -- Etiology
Abstract ที่มา มะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟเป็นมะเร็งเต้านมชนิดที่มีความรุนแรงมาก โดยมักเกิดการเป็นซ้ำหรือลุกลามในระยะเวลารวดเร็วและมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ แต่กลับตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดได้ดีกว่ามะเร็งเต้านมชนิดอื่น มีข้อมูลจากการศึกษาในอดีตพบว่าการขาดหายไปของโปรตีนเรติโนบลาสโตมาซึ่งพบมากในมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟอาจมีบทบาทสำคัญในแง่ของการพยากรณ์โรค และการตอบสนองต่อการรักษา จึงทำการศึกษานี้ขึ้นเพื่อหาความชุกของการขาดหายไปของโปรตีนเรติโนบลาสโตมาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟในประเทศไทยวัตถุประสงค์ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหาความชุกของของการขาดโปรตีนเรติโนบลาสโตมาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟ และมีวัตถุประสงค์รองเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการขาดโปรตีนเรติโนบลาสโตมากับการดำเนินโรคประชากรและวิธีการ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมซึ่งได้รับการรักษาที่รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระหว่างปี พ.ศ.2549-2553 โดยตรวจหาโปรตีนเรติโนบลาสโตมา ด้วยวิธีอิมมูโนอิสโตเคมีสตรี้ จากชิ้นเนื้อของผู้ป่วย 72 รายที่มีการแสดงออกของตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน น้อยกว่าร้อยละ 10 ร่วมกับไม่มีการแสดงออกของตัวรับสัญญาณเฮอร์ทู จากการตรวจด้วยวิธีอิมมูโนฮิสโตเคมีสตรี้ หรือผลทดสอบด้วยวิธี FISH เป็นลบ ที่ถูกเตรียมด้วยวิธีไมโครแอเรย์โดยใช้แอนติบอดี โคลน 1F8 ต่อเรติโนบลาสโตมา และมีการติดตามการดำเนินโรคต่อผลการวิจัย ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟ 46 ราย ที่ไม่มีการแสงออกของโปรตีนเรติโนบลาสโตมาคิดเป็นร้อยละ 64 ซึ่งมีลักษณะที่บ่งบอกว่าโรครุนแรงกว่า คือ อายุเฉลี่ยน้อยกว่า, ชิ้นเนื้อเกรด 3 และระดับการแบ่งเซลล์มากกว่า เมื่อสิ้นสุดการศึกษาพบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่มีการแสงออกของโปรตีนเรติโนบลาสโตมา มีค่าประมาณการมีชีวิตรอดโดยปลอดโรคยาวกว่า คือ ยังไม่สามารถประมาณได้ เทียบกับ 10 เดือน ในผู้ป่วยกลุ่มที่มีการแสดงออกของโปรตีนเรติโนบลาสโตมา (p = 0.13 และ 0.03 ที่ 2 และ 3 ปี ตามลำดับ) เมื่อพิจารณาเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดก่อนการผ่าตัด พบว่ารอยโรคหายไปจนหมด ในอัตราส่วนที่สูงกว่าในกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่มีการแสดงออกของโปรตีนเรติโนบลาสโตมา คือ ร้อยละ 33 เทียบกับร้อยละ 20 ในผู้ป่วยที่มีการแสงออกของโปรตีนเรติโนบลาสโตมา (p=0.604)สรุปผลการวิจัย พบความชุกของการขาดโปรตีนเรติโนบลาสโตมาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟมากกว่าการศึกษาอื่น ๆ และมีแนวโน้มว่าการขาดโปรตีนเรติโนบลาสโตมาจะเป็นปัจจัยที่ใช้ทำนายการดำเนินโรคและการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดได้ การเพิ่มจำนวนผู้ป่วยที่ศึกษาและติดตามการดำเนินโรคต่อในระยะยาวจะช่วยยืนยันผลการศึกษาและแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับได้ชัดเจนขึ้น
URL Website cuir.car.chula.ac.th
Chulalongkorn University

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File #1
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ