![]() |
ความชุกของการกลายพันธุ์ของโปรตีนพี 53 ที่ตำแหน่งโคดอนที่ 249 จากอาร์จีนีนเป็นซีรีนในผู้ป่วยโรคมะเร็งตับที่มีและไม่มีแอนติเจนของไวรัสตับอักเสบบีในประเทศไทย |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | ความชุกของการกลายพันธุ์ของโปรตีนพี 53 ที่ตำแหน่งโคดอนที่ 249 จากอาร์จีนีนเป็นซีรีนในผู้ป่วยโรคมะเร็งตับที่มีและไม่มีแอนติเจนของไวรัสตับอักเสบบีในประเทศไทย |
Creator | ศัลยวิทย์ จิตต์มิตรภาพ |
Contributor | ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์, ยง ภู่วรวรรณ |
Publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Publication Year | 2553 |
Keyword | ตับ -- มะเร็ง, ตับ -- มะเร็ง -- การวินิจฉัยโรค, ตับ -- มะเร็ง -- สมุฏฐานวิทยา, อะฟลาท็อกซิน, โปรตีนพี 53, ยีนต้านมะเร็ง, แอนติเจนตับอักเสบบี, ไวรัสตับอักเสบบี, Liver -- Cancer, Liver -- Cancer -- Diagnosis, Liver -- Cancer -- Etiology, Aflatoxins, p53 protein, Antioncogenes, Hepatitis associated antigen, Hepatitis B virus |
Abstract | ที่มาของการศึกษา การกลายพันธุ์ของโปรตีนพี 53 ที่ตำแหน่งโคดอนที่ 249 จากอาร์จีนีนเป็นซีรีน (R249S) เป็นลักษณะจำเพาะของการได้รับสารอะฟลาทอกซิน การประมาณการณ์ความชุกของการกลายพันธุ์นี้พบว่ามีความชุกระหว่างร้อยละ 7 ถึง 27 แต่เป็นการศึกษาขนาดเล็ก นอกจากนั้นไวรัสตับอักเสบบีซึ่งเป็นไวรัสที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยตับแข็งในประเทศไทย ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับในผู้ที่ได้รับสารพิษอะฟลาทอกซิน การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์หลักพื่อหาความชุกของการกลายพันธุ์ R249S ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งตับในประเทศไทย วิธีการศึกษา การศึกษานี้เป็นการศึกษาชนิดย้อนหลังที่นำชิ้นเนื้อมะเร็งตับที่เก็บไว้ในพาราฟิน โดยชิ้นเนื้อดังกล่าวได้จากผู้ป่วยที่ได้รับการเจาะตับหรือผ่าตัดตับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ชิ้นเนื้อตับที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นมะเร็งตับปฐมภูมิ (Hepatocellular carcinoma) จะนำมาตรวจการกลายพันธุ์โดยวิธี Restriction fragment length polymorphism (RFLP) สารพันธุกรรมที่พบกลายพันธุ์ R249S โดยวิธี RFLP จะได้รับการยืนยันโดยวิธีการตรวจคู่เบส (sequencing) ผลการศึกษา พบการกลายพันธุ์ R249S ในเนื้อมะเร็งตับ 9 ตัวอย่างจาก 100 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 9 โดย 6 ตัวอย่างเป็นมะเร็งตับของผู้ที่มีแอนติเจน HBsAg และส่วน 3 ตัวอย่างล้วนแต่มีแอนติบอดี้ AntiHBc ความชุกของการกลายพันธุ์ R249S ในเนื้อมะเร็งตับกลุ่มที่มีแอนติเจน HBsAg เท่ากับร้อยละ 11.3 ซึ่งมากกว่าร้อยละ 6.4 จากกลุ่มที่ไม่มีแอนติเจนดังกล่าว แม้จะไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ในผู้ป่วยมะเร็งตับ 100 รายพบ HBsAg เป็นบวก 53 ราย และ AntiHCV เป็นบวก 11 ราย ผลตรวจของชิ้นเนื้อตับที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง 10 รายพบว่า ทั้งหมดมีไม่มีการกลายพันธุ์ R249S สรุป ความชุกของการกลายพันธุ์ R249S ในเนื้อมะเร็งตับของประเทศไทยมีประมาณ ร้อยละ 9 อาจอนุมานได้ว่าการได้รับสารอะฟลาทอกซินยังคงเป็นปัญหาในผู้ป่วยมะเร็งตับส่วนหนึ่งของประเทศไทย อย่างไรก็ตามการแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงถั่วลิสง พริกป่น หรือข้าวโพดอาจยังไม่มีความจำเป็นที่ชัดเจน เพราะไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ว่าการหลีกเลี่ยงอาหารจะลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ และมะเร็งตับของประเทศไทยก็มีเพียงส่วนน้อยที่เกี่ยวข้องกับสารอะฟลาทอกซิน |
URL Website | cuir.car.chula.ac.th |