![]() |
การพัฒนาต้นแบบบริษัทจำลองที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ด้านนิเทศศาสตร์สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | การพัฒนาต้นแบบบริษัทจำลองที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ด้านนิเทศศาสตร์สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ |
Creator | อมรรัตน์ เรืองสกุล พัฒนา |
Contributor | สิริฉันท์ สถิรกุล เตชพาหพงษ์, วราภรณ์ บวรศิริ |
Publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Publication Year | 2553 |
Keyword | สถาบันอุดมศึกษา -- นักศึกษา, การสื่อสาร -- การศึกษาและการสอน (อุดมศึกษา), สื่อมวลชน -- การศึกษาและการสอน (อุดมศึกษา), การเรียนรู้องค์การ, การบริหารองค์ความรู้, Universities and colleges, Communication -- Study and teaching (Higher), Mass media -- Study and teaching (Higher), Organizational learning, Knowledge management, College students -- Vocational education |
Abstract | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยในการจัดตั้งบริษัทจำลองที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ด้านนิเทศศาสตร์สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ 2)จัดการเรียนการสอนในรายวิชาฝึกปฏิบัติด้านนิเทศศาสตร์สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มุ่งเน้นเพื่อการจัดตั้งบริษัทจำลอง 3) พัฒนาและตรวจสอบต้นแบบบริษัทจำลองที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ด้านนิเทศศาสตร์สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มตัวอย่างเพื่อใช้ในการตอบแบบสอบถาม และสัมภาษณ์ มี 4 กลุ่ม และกลุ่มตัวอย่างการทดลองโดยฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จำลอง 4 กลุ่ม รวม 8 กลุ่ม ดังนี้ 1) ผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ ประกอบไปด้วย คณบดี รองคณบดี ผู้ช่วยคณบดี ประธานหลักสูตร หัวหน้าสาขาวิชาหรือหัวหน้าแขนงวิชา จำนวน 170 คน 2) อาจารย์หลักสูตรนิเทศศาสตร์ สื่อสารมวลชน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทั้งหมด 32 มหาวิทยาลัย จำนวน 234 คน 3) กลุ่มตัวอย่างนักวิชาชีพนิเทศศาสตร ในระดับหัวหน้าหน่วยงานขึ้นไป จำนวน 20 คน 4) ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบธุรกิจ จำนวน 10 คน 5) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ชั้นปีที่ 2 ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 หลักสูตรนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ รวมจำนวนทั้งสิ้น 80 คนที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาของหลักสูตรนิเทศศาสตร์ที่มีการฝึกปฏิบัติของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จำนวน 4 รายวิชา ชั้นปีละ 1 รายวิชา ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างรายวิชาละ 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบสอบถามความคิดเห็น แบบสัมภาษณ์ แบบวัดทักษะปฏิบัติเชิงกระบวนการ ได้แก่ แบบบันทึกการสังเกตและเกณฑ์ในการสังเกต แบบวัดทักษะปฏิบัติเชิงผลงาน ได้แก่แบบบันทึกคะแนนและเกณฑ์ให้คะแนนในการวัดเชิงผลงาน แบบวิเคราะห์ Five – Forces Model แบบวิเคราะห์สายโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) แบบวิเคราะห์กลยุทธ์การชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน แบบวิเคราะห์การสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้ด้วยการเรียนรู้บนฐานของศักยภาพและแบบประเมินความเหมาะสมและรับรองต้นแบบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว (One-Sample T-Test) และการวิเคราะห์ปัจจัยเพื่อยืนยันความถูกต้องของน้ำหนักตัวแปรในรูปแบบ Confirmatory Factor Analysis Model โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปลิสเรล (Lisrel) ผลการวิจัยพบว่า 1.จากการตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลบริษัทจำลองฯกับข้อมูลเชิงประจักษ์ด้วยวิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน(Confirmatory Factor Analysis) โดยโมเดลตัวบ่งชี้บริษัทจำลองฯ มีตัวแปรแฝง 11 ตัว และมีตัวบ่งชี้ทั้งหมด 41 ตัว ผลการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลบริษัทจำลองด้านนิเทศศาสตร์กับข้อมูลเชิงประจักษ์พบว่า โมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (X2 = 501.83, p = 1.00, df = 747, GFI = 0.90 , AGFI= 0.88, RMR = 0.086 ) เมื่อพิจารณาผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของโมเดลบริษัทจำลองด้านนิเทศศาสตร์พบว่า ค่าน้ำหนักองค์ประกอบทั้ง 41 ตัว มีค่าเป็นบวกอยู่ระหว่าง 0.48 – 0.72 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ทุกตัวบ่งชี้ โดยองค์ประกอบที่มีน้ำหนักความสำคัญมากที่สุดในการบ่งชี้บริษัทจำลองด้านนิเทศศาสตร์ที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ คือ องค์ประกอบด้านการวางแผนและการบริหารกลยุทธ์ รองลงมา คือ องค์ประกอบด้านการจัดการเงินทุนของธุรกิจ องค์ประกอบด้านการบริหารการตลาด การสื่อสารการตลาด การส่งเสริมการขายและช่องทางการจัดจำหน่าย องค์ประกอบด้านผู้ประกอบการธุรกิจ องค์ประกอบด้านบัญชีและการเงิน องค์ประกอบด้านการจัดการเรียนการสอน องค์ประกอบด้านบริหารและการดำเนินงานธุรกิจ องค์ประกอบด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ องค์ประกอบด้านการจัดการความรู้และองค์การแห่งการเรียนรู้ องค์ประกอบด้านวิเคราะห์ทำเลที่ตั้ง และองค์ประกอบด้านแผนธุรกิจ 2.ต้นแบบบริษัทจำลองที่เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ด้านนิเทศศาสตร์สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ ประกอบด้วย ปรัชญา ได้แก่ สร้างสรรค์พัฒนาศักยภาพ เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง สร้างงานสร้างอาชีพสู่ผู้ประกอบการธุรกิจสื่อ ยึดหลักประกอบกิจการเพื่อสังคม วิสัยทัศน์ ได้แก่ พัฒนาต้นแบบบริษัทจำลองให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ทางวิชาการและวิชาชีพด้านนิเทศศาสตร์ ด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบปฏิบัติจริงอย่างมืออาชีพและสร้างสรรค์พัฒนาธุรกิจสื่อสู่ความยั่งยืน พันธกิจ ได้แก่ 1)จัดการเรียนการสอนด้วยการลงมือปฏิบัติจริงในวิชาชีพ 2)พัฒนานักศึกษาเรียนรู้ด้านธุรกิจสู่ผู้ประกอบการธุรกิจสื่อ3)สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพนิเทศศาสตร์ 4) พัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้มีความรู้ทางวิชาการ ความเชี่ยวชาญและทักษะด้านนิเทศศาสตร์ทางวิชาชีพ 5) เป็นองค์การแห่งความรู้ ส่งเสริมพัฒนาอาชีพนักศึกษา ศูนย์กลางการสร้างงานด้านนิเทศศาสตร์ 6) พัฒนาช่วยเหลือสังคมด้วยจิตสาธารณะและผลประกอบการจากบริษัทรวมถึงการปฏิบัติงานทางวิชาชีพของนักศึกษา ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1)พัฒนาบริษัทจำลองให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ด้านนิเทศศาสตร์ และสามารถสร้างงานทางวิชาชีพได้อย่างยั่งยืน 2) พัฒนาบริษัทจำลองให้เป็นศูนย์กลางทางวิชาการและวิชาชีพนิเทศศาสตร์3) พัฒนาส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษาด้วยการปฏิบัติจริงอย่างมืออาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่องานและสังคม 4) พัฒนานักศึกษาสู่การเป็นผู้บริหารธุรกิจสื่อ 5) ยกระดับจิตใจสู่การบริการสาธารณะ นโยบาย ได้แก่1) พัฒนาองค์การให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้แบบยั่งยืน 2) ขับเคลื่อนองค์การธุรกิจด้วยคุณค่าของผลงาน 3) สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4) พัฒนาสังคมด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนและผลประกอบการจากการดำเนินงาน 5) พัฒนาศักยภาพของบุคลากรและนักศึกษาสู่ความเป็นมืออาชีพด้านนิเทศศาสตร์6)สร้างคนสร้างอาชีพให้กับนักศึกษาขณะที่ศึกษาในมหาวิทยาลัย 7) จัดการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติผสานเข้ากับความรู้เชิงทฤษฎี 8) สร้างผลกำไรที่ตัวคนมากกว่าผลกำไรของบริษัท กำไรขาดทุนไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จ ตัววัดความสำเร็จคือความรู้และการยอมรับในคุณค่าของคนและผลงาน 9) เพิ่มพูนประสบการณ์นักศึกษาด้วยการเรียนการสอนแบบมืออาชีพและเรียนรู้การประกอบธุรกิจด้านนิเทศศาสตร์ 10) สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ด้วยหลักธรรมาภิบาล กลยุทธ์ ได้แก่ 1)การสร้างความน่าเชื่อถือด้วยความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2) การเสนอข้อเท็จจริง ข้อมูลลึก ความรู้รอบด้านและความใกล้ชิดชุมชน 3) ต้นทุนต่ำ การสร้างความแตกต่างที่ทำให้มองเห็นคุณค่าและมุ่งเฉพาะส่วน 4) การแข่งขันที่หลากหลายจะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้รวดเร็วและจดจำได้ 5)ดำเนินการวิจัยเพื่อวิเคราะห์และกำหนดกระบวนการให้ฝ่ายบริหารสามารถระบุปัจจัยที่มีความสำคัญกับความสำเร็จในระยะยาว 6)ปรับคุณภาพการผลิตหรือบริการที่เหนือกว่าเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า |
URL Website | cuir.car.chula.ac.th |