![]() |
ผลของการใช้น้ำมันหอมระเหยต่อความอยากเสพสารระเหยของผู้เข้ารับการบำบัดการติดสารระเหย ณ สถาบันธัญญารักษ์ |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Title | ผลของการใช้น้ำมันหอมระเหยต่อความอยากเสพสารระเหยของผู้เข้ารับการบำบัดการติดสารระเหย ณ สถาบันธัญญารักษ์ |
Creator | วรรณจรี มณีแสง |
Contributor | รัศมน กัลยาศิริ, ลดาวัลย์ อุ่นประเสริฐพงศ์ |
Publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Publication Year | 2553 |
Keyword | สารประกอบอะโรมาติก, น้ำมันหอมระเหย, การบำบัดด้วยกลิ่น, การใช้สารเสพติด, Aromatic compounds, Essences and essential oils, Aromatherapy, Substance abuse |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบ cross-over และ double-blind มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความอยากเสพสารระเหย ในผู้เข้ารับการบำบัดการติดสารระเหย ณ สถาบันธัญญารักษ์ 34 คน เมื่อไม่ได้รับการสูดดมสารใดเปรียบเทียบกับเมื่อได้รับการสูดดมน้ำมันหอมระเหย ขณะที่ดูภาพกระตุ้นความอยากเสพสารระเหยทางจอคอมพิวเตอร์ และเพื่อเปรียบเทียบผลของความอยากเสพสารระเหยเมื่อกลุ่มตัวอย่างได้รับการสูดดมน้ำมันหอมระเหย เปรียบเทียบกับการได้รับการสูดดมน้ำหอมธรรมดา ขณะที่ดูภาพกระตุ้นความอยากเสพสารระเหยทางจอคอมพิวเตอร์ โดยใช้ระยะเวลาห่างกัน 2 วัน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลคือ แบบวัดระดับความอยากเสพสารระเหย Penn Alcohol Craving Score (PACS) ฉบับแปลภาษาไทยและแบบวัดความรู้สึก Visual Analog Scale (VAS) 9 ด้าน โดยกลุ่มตัวอย่างสามารถเลือกคำตอบผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตนเอง จากนั้นนำข้อมูลที่บันทึกได้มาวิเคราะห์ด้วยสถิติ Generalized estimating equations (GEE) และ pair t-test ผลการวิจัยพบว่า ในวันที่ได้รับการสูดดมน้ำมันหอมระเหย กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนความอยากเสพสารระเหยน้อยกว่าในวันที่ไม่ได้รับการสูดดมสารใด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับน้อยกว่า 0.01 และในวันที่ได้รับการสูดดมน้ำมันหอมระเหย กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนความอยากเสพสารระเหยไม่แตกต่างจากในวันที่ได้รับการสูดดมน้ำหอมธรรมดา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับน้อยกว่า 0.05 ดังนั้นการสูดดมน้ำมันหอมระเหยจึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการนำไปใช้บำบัดเพื่อลดความอยากเสพสารระเหยในผู้ที่ติดสารระเหยได้ |
URL Website | cuir.car.chula.ac.th |