![]() |
การสืบทอดและความคลี่คลายของนาฏกรรมราชสำนักไทยในพม่า |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | ธัชกร นันทรัตนชัย |
Title | การสืบทอดและความคลี่คลายของนาฏกรรมราชสำนักไทยในพม่า |
Contributor | พีรพงศ์ วงษ์ชื่น |
Publisher | บัณฑิตศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม |
Publication Year | 2566 |
Journal Title | วิพิธพัฒนศิลป์ |
Journal Vol. | 3 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 40-54 |
Keyword | โยเดีย, นาฏกรรมไทยในพม่า, นาฏกรรมพม่า |
URL Website | https://so02.tci-thaijo.org/index.php/WIPIT |
Website title | วารสารวิพิธพัฒนศิลป์ |
ISSN | 2730-3640 |
Abstract | บทความนี้มุ่งนำเสนอความรู้เกี่ยวกับการสืบทอดและความคลี่คลายของนาฏกรรมราชสำนักไทยในพม่า ซึ่งผู้ศึกษาพบว่า นาฏกรรมราชสำนักไทยเริ่มแพร่หลายไปสู่พม่าตั้งแต่สมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2112) แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในสังคมพม่ามากนัก กระทั่งภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2310) พม่าได้กวาดต้อนเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ข้าราชสำนัก และช่างฝีมือชาวอโยธยาที่เชี่ยวชาญงานศิลป์แขนงต่าง ๆ ไปเป็นเชลยสงครามจำนวนมาก ส่งผลให้นาฏกรรมไทยในราชสำนักกรุงศรีอยุธยาเริ่มเป็นที่รู้จักในพม่ามากขึ้น แม้ว่าบทการแสดงจะเป็นภาษาไทยที่ชาวพม่าส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความหมาย แต่ด้วยท่วงทำนองดนตรีอันไพเราะ ตลอดจนลีลาท่ารำและเครื่องแต่งกายอันวิจิตรงดงามก็ทำให้ผู้ชมชาวพม่าเกิดความประทับใจ ต่อมาจึงมีการแปลบทละครเป็นภาษาพม่า รวมทั้งปรับปรุงรูปแบบนาฏกรรมให้เข้ากับบริบทสังคมวัฒนธรรมของพม่าในเวลานั้น โดยยังคงรักษากลิ่นอายแบบราชสำนักกรุงศรีอยุธยาไว้ เรียกว่า “โยเดียซาตจี” (Yodia Zat Kyi) หมายถึง นาฏกรรมของชาวอยุธยานาฏกรรมของชาวอยุธยาที่ชาวพม่ารู้จักกันอย่างแพร่หลายในอดีตมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 1) นาฏกรรมเรื่องอิเหนา ซึ่งมีรูปแบบคล้ายการแสดงละครใน 2) นาฏกรรมเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมีรูปแบบคล้ายการแสดงโขน และ 3) รำโยเดีย ซึ่งเป็นชุดการแสดงต่าง ๆ ที่มีลีลาการร่ายรำแบบระบำเบ็ดเตล็ด รูปแบบนาฏกรรมเหล่านี้ดำรงอยู่ในสังคมวัฒนธรรมพม่ามาอย่างยาวนาน จนกระทั่งพม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี พ.ศ. 2428 นาฏกรรมอิเหนาจึงขาดการสืบทอดและสูญหายไประยะหนึ่ง ก่อนจะมีการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2541 ส่วนนาฏกรรมรามเกียรติ์และรำโยเดียนั้นมีการสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน การที่พม่าเลือกรับเอาแบบแผนนาฏกรรมของไทยไปปรุงเข้ากับศิลปะการฟ้อนรำของตน โดยยังคงสืบทอดรูปแบบนาฏกรรมของราชสำนักกรุงศรีอยุธยาไว้ นับว่าเป็นภาพที่สะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างสองชนชาติในมิติทางศิลปวัฒนธรรม ซึ่งตรงกันข้ามกับภาพความขัดแย้งในประวัติศาสตร์สงครามที่ชาวไทยรุ่นปัจจุบันคุ้นเคย |