![]() |
ผลกระทบของการสร้างตราจากภายในต่อการกำหนดตัวตนของพนักงาน:ตามแนวคิดอัตลักษณ์ทางสังคม |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | Jian Zhang |
Title | ผลกระทบของการสร้างตราจากภายในต่อการกำหนดตัวตนของพนักงาน:ตามแนวคิดอัตลักษณ์ทางสังคม |
Contributor | โรจนศักดิ์ โฉมวิไลลักษณ์ |
Publisher | วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ |
Journal Vol. | 45 |
Journal No. | 3 |
Page no. | 1-25 |
Keyword | การสร้างตราจากภายใน, ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านตรา, การสื่อสารตราภายใน, การกำหนดตัวตน ทฤษฎีอัตลักษณ์ทางสังคม |
URL Website | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/utccjournalhs/article/view/280674 |
Website title | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/utccjournalhs/article/view/280674 |
ISSN | 3027-7671 |
Abstract | การศึกษาวิจัยในปัจจุบัน มองว่า มหาวิทยาลัย มีสถานะเช่นเดียวกับองค์กรธุรกิจบริการ กลยุทธ์การสร้างตราจากภายในสามารถทำให้ตราขององค์กรหรือมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง ดังนั้น งานวิจัยนี้ จึงศึกษาผลกระทบของการสร้างตราจากภายใน และองค์ประกอบต่างๆ ของการสร้างตราจากภายในต่อการกำหนดตัวตนของพนักงาน ตามแนวคิดอัตลักษณ์ทางสังคม เนื่องจาก หากการกำหนดตัวตนของพนักงานสอดคล้องกับตราของมหาวิทยาลัย ย่อมส่งผลให้พนักงานร่วมกันสร้างตราของมหาวิทยาลัยให้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ซึ่งสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของตน กลุ่มตัวอย่างของงานวิจัย ประกอบด้วยพนักงาน 511 คน จากมหาวิทยาลัยในภูมิภาคตะวันตกของประเทศจีน 24 แห่ง ผลการวิจัยพบว่า การสร้างตราจากภายในและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงตรา (Transformational Brand Leadership) และการสื่อสารตราภายใน (Internal Brand Communication) มีผลเชิงบวกต่อการกำหนดตัวตนของพนักงาน นอกจากนี้ ปัจจัยย่อยขององค์ประกอบทั้ง 2 ได้แก่ การมีอิทธิพลของผู้นำเชิงอุดมคติ (idealized influence) และการให้ความสำคัญกับบุคลากรระดับรายบุคคลของผู้นำ (individual consideration) มีผลเชิงบวกต่อการกำหนดตัวตนของพนักงาน ขณะที่กระตุ้นทางปัญญาหรือองค์ความรู้ (intellectual stimulation) และการสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน (inspiration motivation) ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม สำหรับการสื่อสารตราภายใน พบว่าการสื่อสารแบบมวลชนและการสื่อสารระดับรายบุคคล มีผลเชิงบวกต่อการกำหนดตัวตนของพนักงาน ดังนั้น สรุปได้ว่า แนวคิดการสร้างตราจากภายในและแนวคิดอัตลักษณ์ทางสังคมสามารถนำมาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการสร้างความเข้มแข็งหรือสร้างการยอมรับตราของมหาวิทยาลัยได้ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา ควรให้ความสำคัญกับการสร้างอิทธิพลของผู้นำต่อบุคลากรเชิงอุดมคติและให้ความสำคัญกับบุคลากรในระดับบุคคล เพื่อกระตุ้นพนักงานให้ร่วมกันการสร้างตราองค์กรให้มีชื่อเสียง ซึ่งสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของตน นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการสื่อสารตราผ่านวิธีการแบบรายบุคคลควบคู่ไปกับการสื่อสารแบบระดับมวลชน การวิจัยในอนาคต ควรมีการใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยเพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึก และสามารถอธิบายพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องของพนักงานในการสร้างตราจากภายในได้ชัดเจน เพื่อให้สามารถประยุกต์ผลการศึกษากับมหาวิทยาลัยของจีนและกับสถานศึกษาในประเทศต่างๆ ได้มากขึ้น |