![]() |
ระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร: การศึกษาเชิงประจักษ์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การยอมรับ และความพึงพอใจ |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | วศิณ ชูประยูร |
Title | ระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร: การศึกษาเชิงประจักษ์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การยอมรับ และความพึงพอใจ |
Contributor | วัลย์ลิกา วงษ์วรเทวา |
Publisher | สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยรังสิต |
Publication Year | 2565 |
Journal Title | วารสารรังสิตสารสนเทศ |
Journal Vol. | 28 |
Journal No. | 2 |
Page no. | 129-150 |
Keyword | ระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร, ประสิทธิภาพ, ประสิทธิผล, การยอมรับ |
URL Website | https://rilj.rsu.ac.th/ |
Website title | เว็บไซต์สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยรังสิต |
ISSN | 2773-8922 |
Abstract | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การยอมรับ และความพึงพอใจต่อระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร 2) พัฒนาตัวแบบ (สมการ) ความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร และความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพ/ประสิทธิผลกับความพึงพอใจของผู้ใช้ และ 3) นำเสนอแนวทางในการพัฒนาต่อยอดและปรับปรุงแก้ไขระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณใช้กรอบทฤษฎี UTAUT เป็นทฤษฎีหลักในการออกแบบการวิจัย ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง (เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องชั่งน้ำหนักมูลฝอย ผู้ควบคุมงาน หัวหน้าศูนย์ ผู้บริหาร และ เอกชนผู้รับจ้าง) กับระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร จำนวน 261 คน กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามและส่งกลับคืนมา จำนวน 217 ชุด (ร้อยละ 83.14) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ก) สถิติพื้นฐาน คือร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ข) สถิติอ้างอิงเพื่อทดสอบสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นแบบพหุ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นโดยรวมต่อประสิทธิภาพ ประสิทธิผล การยอมรับ และความพึงพอใจของระบบสารสนเทศบริหารจัดการข้อมูลมูลฝอยในระดับมาก (ค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.12-3.98) ผลการทดสอบสมมติฐานทำให้ได้สมการอิทธิพล จํานวนรวมทั้งสิ้น 30 สมการ ในด้านประสิทธิภาพของระบบนั้น พบว่า ก) การสามารถนำไปใช้ทดแทนระบบอื่นได้มีอิทธิพลมากที่สุดต่อประสิทธิผลของระบบ (R2 = 0.538) ข) การตอบสนองความต้องการ หรือสามารถแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้งานได้ มีอิทธิพลต่อการยอมรับระบบมากที่สุด (R2 = 0.415) และ ค) การประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และสมบูรณ์ มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจมากที่สุด (R2 = 0.223) ในด้านประสิทธิผลพบว่า ก) การที่ระบบสามารถปฏิบัติงานทดแทนการทำงานระบบเดิมที่มีมาก่อนหน้านี้ มีอิทธิพลต่อการยอมรับระบบมากที่สุด (R2 = 0.254) ข) การที่ระบบทำให้องค์กรประหยัดทรัพยากรบุคคลและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจมากที่สุด (R2 = 0.207) ในด้านการยอมรับระบบ พบว่า ความช่วยเหลือระหว่างผู้ใช้หน้างานและผู้พัฒนาด้านเทคนิคในการบำรุงรักษาระบบมีอิทธิพลต่อความพึงพอใจต่อระบบมากที่สุด (R2 = 0.291) |