![]() |
การพัฒนาถนนศิลปะเชิงสร้างสรรค์ของชาวไทหล่มในจังหวัดเพชรบูรณ์ |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | พระมหาธนกร กิตฺติปญฺโญ |
Title | การพัฒนาถนนศิลปะเชิงสร้างสรรค์ของชาวไทหล่มในจังหวัดเพชรบูรณ์ |
Contributor | พระราชพัชรธรรมเมธี, พระสุธีวชิราภรณ์, สุรีรัตน์ ณ วิเชียร |
Publisher | สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | วารสารชุมชนวิจัยและพัฒนาสังคม |
Journal Vol. | 19 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 69-86 |
Keyword | ถนนศิลปะเชิงสร้างสรรค์, ศิลปะพื้นที่สาธารณะ, จุดหมายปลายทางท่องเที่ยววัฒนธรรมสร้างสรรค์ |
URL Website | https://so04.tci-thaijo.org/index.php/NRRU/issue/view/18146 |
Website title | https://so04.tci-thaijo.org/index.php/NRRU/ |
ISSN | 3027-7515 |
Abstract | ที่มา(ภูมิหลัง): การส่งเสริมอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและเสริมสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้หลากหลาย เป็นประเด็นหนึ่งที่มีความสำคัญในการต่อยอดผลงานเชิงสังคมพหุลักษณ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิจัยครั้งนี้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาและศิลปะ การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญา และการพัฒนาถนนศิลปะเชิงสร้างสรรค์ของชาวไทหล่มในจังหวัดเพชรบูรณ์ วิธีการ: ระเบียบวิธีวิจัยที่เลือกใช้ คือ การวิจัยเชิงคุณภาพร่วมกับการวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญทำการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงกลุ่มวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว กลุ่มศิลปินชุมชนไทหล่ม กลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย และกลุ่มผู้ประกอบการที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 56 คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างเป็นเครื่องมือในการลงพื้นที่ภาคสนามเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และการถ่ายภาพ สำหรับคำตอบที่ได้ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงตีความ และแสดงผลลัพธ์การวิจัยด้วยวิธีบรรยายพรรณนา ผลลัพธ์: การศึกษาบริบทในพื้นที่ด้านประวัติศาสตร์ พบว่า มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในอดีตมาอย่างยาวนาน ด้านวัฒนธรรม พบว่า มีหลักฐานแสดงความเชื่อมโยงระหว่างศาสนากับการปกครอง ด้านภูมิปัญญา พบว่า มีการเปลี่ยนชื่อวัดที่สะท้อนความเป็นสิริมงคลและเอกลักษณ์ของท้องถิ่นเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมทางวัฒนธรรมและเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของชุมชน ด้านศิลปะ พบว่า มีพุทธศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะราชสำนักกับศิลปะพื้นถิ่นภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่คงความเป็นเอกลักษณ์ (โบสถ์ วิหาร เจดี และพระเจ้าไม้) นอกจากนี้ ด้านส่งเสริมการเรียนรู้ พบว่า วัดศรีมงคลถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ศิลปะ และศาสนา ด้านการพัฒนาวิธีคิดสร้างสรรค์ พบว่า มีการออกแบบเสนาสนะตามแนวคิดพุทธศิลปกรรมล้านช้างและหลักธรรมพระพุทธศาสนา ด้านการพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ พบว่า ได้บูรณาการศิลปะ พุทธศิลป์ และการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน ทำให้วัดกลายเป็นพื้นที่วัฒนธรรมร่วมสมัยและเป็นจุดขายเชิงวัฒนธรรม และด้านองค์ความรู้ศิลปะเชิงสร้างสรรค์ พบว่า ศิลปะของวัดศรีมงคลสื่อถึงความเชื่อ ความศรัทธา และภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างกลมกลืนและชัดเจน สำหรับการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญา พบว่า ได้ฟื้นฟูและพัฒนาเส้นทางวัฒนธรรมระหว่างวัดศรีมงคลและวัดไพรสณฑ์ศักดาราม ระยะทาง 350 เมตร ให้เป็น “ถนนศิลปะเชิงสร้างสรรค์” และการพัฒนาถนนศิลปะเชิงสร้างสรรค์ พบว่า เกิดการบริหารจัดการร่วมกัน 7 ด้าน ได้แก่ ร่วมมือ พัฒนา ใช้พื้นที่สาธารณะ บทบาท ส่วนร่วม เตรียมพร้อมและขับเคลื่อน และดูแลรักษา บทสรุป: ข้อค้นพบที่ได้ คือ อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ผลกระทบเชิงปฏิบัติ คือ พื้นที่ถนนศิลปะกลายเป็น “จุดหมายปลายทางท่องเที่ยววัฒนธรรมสร้างสรรค์” และผลกระทบต่อการวิจัยในอนาคต คือ เกิดเป็นกรณีศึกษาสำคัญเกี่ยวกับมีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมเพื่อประยุกต์ใช้กับชุมชนผ่านงานศิลปะแบบมีส่วนร่วมและศักยภาพของศิลปะพื้นที่สาธารณะในฐานะเครื่องมือเชิงวิจัยแบบสหวิทยาการ |