การศึกษาความสัมพันธ์ของความรู้ทัศนคติต่อความร่วมมือในการกินยาของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า: การศึกษาภาคตัดขวางในโรงพยาบาลสงขลา
รหัสดีโอไอ
Creator ลัดดาพร เทพสวน
Title การศึกษาความสัมพันธ์ของความรู้ทัศนคติต่อความร่วมมือในการกินยาของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า: การศึกษาภาคตัดขวางในโรงพยาบาลสงขลา
Publisher โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
Publication Year 2568
Journal Title วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3
Journal Vol. 22
Journal No. 3
Page no. 191-200
Keyword ความรู้, ทัศนคติ, โรคซึมเศร้า, ยาแก้โรคซึมเศร้า
URL Website https://thaidj.org/index.php/smj/index
Website title วารสารวิชาการแพทย์และสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3
ISSN ISSN 2774-0579 (Online), ISSN 2821-9201 (Print)
Abstract วัตถุประสงค์: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินระดับความรู้และทัศนคติต่อโรคซึมเศร้า รวมถึงความสม่ำเสมอในการรับประทานยาของผู้ป่วย และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และความสม่ำเสมอในการรับประทานยาของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในโรงพยาบาลสงขลาวิธีการศึกษา: การศึกษาแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional study) ดำเนินการกับกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยโรคซึมเศร้า จำนวน 382 ราย ที่มารับการรักษาที่คลินิกจิตเวช โรงพยาบาลสงขลา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความรู้และทัศนคติต่อโรคซึมเศร้า แบบวัดความสม่ำเสมอในการรับประทานยา (MAST) แบบประเมินโรคซึมเศร้า PHQ-9 และแบบสอบถามอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตีตราและความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย ข้อมูลถูกวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม Epi-Data โดยใช้สถิติพรรณนา และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ โดยใช้ Multiple Logistic Regression และ Mann–Whitney U testผลการศึกษา: ผู้ป่วย 382 ราย ที่เข้าร่วมการศึกษา มีอายุเฉลี่ย 39 ปี (ช่วงอายุ 25-52 ปี) โดยเป็นผู้หญิง 83.5% และผู้ชาย 16% ผลการวิเคราะห์พบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับโรคซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ อายุ (p-value<0.001), อาชีพ (p-value =0.008), ความสัมพันธ์ในครอบครัว (p-value<0.001), และการถูกตีตรา (p-value=0.003) โดยผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูงกว่ากลุ่มนักเรียน/นักศึกษา 5.93 เท่า (95%CI=1.90, 18.51) และผู้ที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ดีมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูงกว่าผู้ที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดี 6.92 เท่า (95%CI=2.89, 16.58) ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่มีความรู้และทัศนคติในแง่บวกต่อโรคซึมเศร้ามีความสัมพันธ์กับการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่พบความสัมพันธ์ทางสถิติที่มีนัยสำคัญ (p-value=0.183 และ 0.590 ตามลำดับ) นอกจากนี้ ผลการศึกษาเผยว่า 95.5% ของผู้ป่วยมีความสม่ำเสมอในการรับประทานยา และ 80.6% มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยสรุป: การศึกษาพบว่า ความรู้และทัศนคติของผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีความสัมพันธ์กับการดูแลตัวเองและความสม่ำเสมอในการรับประทานยา แต่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสถิติที่มีนัยสำคัญกับภาวะซึมเศร้าและความร่วมมือในการรักษา ผู้ป่วยที่มีความรู้และทัศนคติในแง่บวกเกี่ยวกับโรคซึมเศร้ามักมีความสม่ำเสมอในการรับประทานยาและให้ความสำคัญในการดูแลตัวเอง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับภาวะซึมเศร้า ได้แก่ อายุ อาชีพ การรับรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว และระดับการถูกตีตรา โดยผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพและผู้ที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ดีมีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าสูงกว่าคำสำคัญ: ความรู้, ทัศนคติ, โรคซึมเศร้า, ยาแก้โรคซึมเศร้า
โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ