|
ปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 |
|---|---|
| รหัสดีโอไอ | |
| Creator | อวิรุทธ์ ชาญชัยกิตติกร |
| Title | ปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 |
| Publisher | คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร |
| Publication Year | 2567 |
| Journal Title | วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร |
| Journal Vol. | 17 |
| Journal No. | 2 |
| Page no. | 29-55 |
| Keyword | ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, การสำรวจทรัพย์สินเพื่อเสียภาษี, การประกอบการเกษตรกรรม |
| URL Website | https://www.tci-thaijo.org/index.php/lawnujournal/index |
| Website title | https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawnujournal/article/view/273643 |
| ISSN | 2985-2064 (Print), 2985-2072 (Online) |
| Abstract | พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 กำหนดอัตราภาษีการใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในการประกอบเกษตรกรรมต่ำมาก และยกเว้นภาษีให้แก่บุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบการเกษตรในแต่ละเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นจำนวนถึง 50 ล้านบาท ทำให้มีปัญหาการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีเป็นจำนวนมาก เมื่อได้ทำการศึกษา พบว่า ในมลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการกำหนดให้ผู้เสียภาษีมีหน้าที่ต้องแจ้งรายการทรัพย์สินเพื่อรับการประเมินภาษี แล้วพนักงานประเมินต้องออกสำรวจทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ส่วนในมลรัฐนิวเจอร์ซีย์ เจ้าของที่ดินผู้ขอรับการประเมินจะต้องแสดงหลักฐานกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ใช้เพื่อการเกษตรมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี ติดต่อกันก่อนปีภาษีที่ขอ โดยต้องมีพื้นที่ทำการเกษตรติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 เอเคอร์ และต้องมียอดขายผลผลิตจากที่ดินเกษตรกรรมเฉลี่ยอย่างน้อย 1,000 ดอลลาร์ ต่อปีสำหรับที่ดิน 5 เอเคอร์แรก อีกทั้งจะต้องแสดงให้เห็นว่าที่ดินยังคงใช้ในการทำเกษตรกรรมตลอดปีภาษี อย่างไรก็ดี หากนำที่ดินไปใช้ประโยชน์เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ก็จะต้องเสียภาษีย้อนหลัง เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 มีประสิทธิภาพและอำนวยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 มาตรา 11 บัญญัติ ให้เจ้าของทรัพย์สินมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินก่อนที่จะให้เจ้าพนักงานไปทำการสำรวจตรวจสอบเพื่อความถูกต้องแล้ว จึงทำหนังสือแจ้งการประเมินไปยังผู้เสียภาษี และควรเพิ่มเติมบทบัญญัติมาตรา 37 วรรคสอง เรื่องการใช้ประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประกอบการเกษตรกรรม ว่าต้องเป็นการทำเกษตรกรรมอย่างแท้จริง กับควรเพิ่มเติมบทบัญญัติตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง กรณีบุคคลธรรมดาที่จะได้รับยกเว้นภาษีนั้น จะต้องเป็นผู้ประกอบการเกษตรกรรมเพื่อยังชีพด้วยตนเอง |
