![]() |
ประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | สุภาวดี กาญจนเกต |
Title | ประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์เพื่อเสริมสร้างความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 |
Contributor | นิราศ จันทรจิตร, พิจิตรา ธงพานิช |
Publisher | งานวารสาร มหาวิทยาลัยนครพนม |
Publication Year | 2566 |
Journal Title | วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม |
Journal Vol. | 13 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 295-311 |
Keyword | รูปแบบการจัดการเรียนรู้, ความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ, การคิดวิเคราะห์, การจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ, การจัดการเรียนรู้แบบปกติ |
URL Website | https://so03.tci-thaijo.org/index.php/npuj |
Website title | เว็บไซต์ระบบฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย |
ISSN | 2651-2459 |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์เสริมสร้างความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย 1) เปรียบเทียบความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณและการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) เปรียบเทียบความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณและการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนกลุ่มทดลองที่จัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ กับกลุ่มควบคุมที่จัดการเรียนรู้แบบปกติ การวิจัยครั้งนี้ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 โรงเรียน รวม 215 คน ที่มีบริบทพื้นฐานด้านประสบการณ์การเรียนรู้และการจัดการเรียนรู้ในระดับใกล้เคียงกัน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 2 ห้องๆ ละ 37 คน และ 36 คน ตามลำดับ สำหรับใช้เป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม ผลการวิจัย พบว่า 1) นักเรียนที่จัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ มีความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณและการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียน ด้านความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณเท่ากับ 27.59 และ 34.86 และคะแนนเฉลี่ยการคิดวิเคราะห์เท่ากับ 16.05 และ 21.08 ตามลำดับ และ 2) นักเรียนที่จัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ มีความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณและการคิดวิเคราะห์ หลังเรียนสูงกว่า กลุ่มที่จัดการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณเท่ากับ 34.86 และ 32.78 และมีคะแนนเฉลี่ยการคิดวิเคราะห์เท่ากับ 21.08 และ 19.39 ตามลำดับ ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย ได้กรอบแนวคิดและโครงสร้างของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เป็นระบบ ภายใต้หลักการ แนวคิดการสืบเสาะหาความรู้ การให้เหตุผล และทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้สนับสนุน อีกทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ และขยายผลกับนักเรียนในบริบทการเรียนรู้ที่ใกล้เคียงกันให้ประสบผลสำเร็จและมีคุณภาพตามที่ต้องการ |