![]() |
ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมที่มีต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ : กรณีศึกษาตำบลกุตาไก้ อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | ชัชวาล นามพลแสน |
Title | ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมที่มีต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ : กรณีศึกษาตำบลกุตาไก้ อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม |
Contributor | พิมพ์ญดา สุนา, ณรงฤทธิ์ หนูคล้าย, ศศิประภา ดวงอุปมา |
Publisher | สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | วารสารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ |
Journal Vol. | 4 |
Journal No. | 2 |
Page no. | 65-81 |
Keyword | ปัจจัยทางสังคม, ปัจจัยทางวัฒนธรรม, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ |
URL Website | https://li01.tci-thaijo.org/index.php/sci_01/article/view/268904 |
Website title | วารสารวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ |
ISSN | 2821-9406 (Online) |
Abstract | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยทางสังคมและปัจจัยทางวัฒนธรรมรวมทั้งพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของคนในชุมชน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของปัจจัยดังกล่าวต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนในตำบลกุตาไก้ อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม จำนวน 451 คน การสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามโดยได้รับการตรวจสอบคุณภาพ พบว่า IOC อยู่ระหว่าง 0.67–1.00 ค่า Cronbach’s Alpha = 0.89 และค่า KMO = 0.82 ผู้วิจัยดำเนินการตามหลักจริยธรรม โดยชี้แจงวัตถุประสงค์ ขอความยินยอมโดยสมัครใจ และรักษาความลับของผู้ให้ข้อมูล และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยทางสังคม ปัจจัยทางวัฒนธรรม และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพอยู่ในระดับมาก เมื่อวิเคราะห์ถดถอยเชิงเส้นพหุคูณ พบว่า ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมสามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการดูแลสุขภาพได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (F = 161.534, p = 0.001) โดยอธิบายความแปรปรวนได้ ร้อยละ 41.90 (R² = 0.419) ทั้งนี้ ปัจจัยทางสังคมมีอิทธิพลสูงสุด (β = 0.423, t = 7.672, p = 0.001) รองลงมาคือปัจจัยทางวัฒนธรรม (β = 0.265, t = 4.794, p = 0.001) ข้อค้นพบว่าปัจจัยทั้งสองมีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมสุขภาพของประชาชน ควรผสานบทบาทครอบครัวและองค์กรท้องถิ่นในการส่งเสริมสุขภาพเพื่อความยั่งยืน |