![]() |
แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้ผลการปฏิบัติการสอนเป็นฐานร่วมกับชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพสําหรับครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | ญาณิฐา ราชคม |
Title | แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้ผลการปฏิบัติการสอนเป็นฐานร่วมกับชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพสําหรับครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน |
Contributor | ณัฐวุฒิ ยอดใจ |
Publisher | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | The Journal of Research and Academics |
Journal Vol. | 8 |
Journal No. | 5 |
Page no. | 185 |
Keyword | การพัฒนาสมรรถนะครู, สมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียน, ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ |
URL Website | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/index |
Website title | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/index |
ISSN | ISSN 2672-9962 (Online) |
Abstract | บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากรอบแนวคิด 2) ความต้องการ และ 3) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้ผลการปฏิบัติการสอนเป็นฐานร่วมกับชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน งานวิจัยใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสาน โดยศึกษาแนวคิดและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ แนวคิดการพัฒนาสมรรถนะ การวิจัยในชั้นเรียน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สอบถามกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ปีการศึกษา 2567 คือ ครูโรงเรียนเวียงเทิง (เทิงนำนุประชา) จำนวน 38 คน และครูโรงเรียนพญาเม็งราย จำนวน 32 คน และสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน ซึ่งเป็นการคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสอบถาม มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง มีค่า IOC เท่ากับ 1.00 แสดงว่าข้อคำถามมีความเที่ยงตรง ใช้ได้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์เนื้อหาและสรุปข้อมูล ผลการวิจัย พบว่า 1) กรอบแนวคิด ประกอบด้วย การปฏิบัติการสอนเป็นฐาน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการวิจัยในชั้นเรียน และสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียน 2) ความต้องการพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยสูงสุดไปหาต่ำสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 2.1) มีผลงานเป็นรูปธรรม 2.2) ความสามารถในการสื่อสาร 2.3) การมีทักษะการวิจัย ตามลำดับ และ 3) แนวทางการพัฒนา ประกอบด้วย 3.1) ควรใช้หลักความร่วมมือ หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และผลการปฏิบัติการสอน 3.2) ควรแต่งตั้งทีมวิชาการหรือทีมวิจัยเพื่อรับผิดชอบดูแล ให้คำปรึกษา ชี้แนะ ช่วยเหลือ และจัดปัจจัยสนับสนุนการทำวิจัยในชั้นเรียน 3.3) สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพด้านการวิจัยในชั้นเรียน 3.4) จัดกิจกรรมเสวนา การประกวดผลงานวิจัยในชั้นเรียน การแสดงผลงานวิจัยในชั้นเรียนที่เป็นต้นแบบแนวปฏิบัติที่ดี |