![]() |
การจัดการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลานสัก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | พระสมุห์ตนุภัทร จินฺตามโย (รุ่งเรืองดี) et al. |
Title | การจัดการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลานสัก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 |
Contributor | พิสมัย รบชนะชัย พูลสุข, ดิเรก ด้วงลอย |
Publisher | มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ |
Publication Year | 2566 |
Journal Title | The Journal of Research and Academics |
Journal Vol. | 6 |
Journal No. | 3 |
Page no. | 65-76 |
Keyword | การจัดการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์, เศรษฐกิจพอเพียง, หลักอิทธิบาท 4 |
URL Website | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/index |
Website title | https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/index |
ISSN | ISSN 2985-0053 (Online) |
Abstract | บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการใช้การจัดการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงตามหลักอิทธิบาท 4 การวิจัยครั้งนี้มีเป็นการวิจัยเชิงทดลอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลลานสัก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ที่เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ จำนวน 1 ห้อง คือ ชั้น ป.5/1 จำนวน 36 คน สุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงตามหลักอิทธิบาท 4 รายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จำนวน 4 แผน และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งเครื่องมือที่ใช้เป็นแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ได้ค่า IOC เท่ากับ 1 ทุกข้อ จากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ท่าน มาเป็นแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ วิเคราะห์หาค่าความยากง่าย และค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบรายข้อโดยเลือกแบบทดสอบที่มีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.20-0.80 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไปมาเป็นแบบทดสอบ วิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89 และนำมาวิเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากหลักอิทธิบาท 4 เป็นกรอบในการกำหนดแนวทางชัดเจนในการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหาการเรียนการสอนได้ตรงประเด็นมีความพยายามในการร่วมกิจกรรม เอาใจใส่ในกิจกรรมนั้น รวมไปถึงตรวจสอบความผิดพลาดของตนเองให้สมบูรณ์เป็นการนำเอาหลักธรรมมาใช้ และ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย (?) =15.23 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย (?) = 20.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ก่อนเรียน =2.329 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) หลังเรียน = 3.627 |