![]() |
การประเมินผลโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) ของสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์ ตามหลักอิทธิบาทธรรม |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | อรอุมา ซ่อนกลิ่น |
Title | การประเมินผลโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) ของสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์ ตามหลักอิทธิบาทธรรม |
Contributor | การประเมินผลโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) ของสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดนครสวรรค์ ตามหลักอิทธิบาทธรรม |
Publisher | หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนครพนม |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | Journal of Public Administration and Interdisciplinary Studies for Society |
Journal Vol. | 1 |
Journal No. | 1 |
Page no. | e1862 |
Keyword | การประเมินผลโครงการ, U2T for BCG, หลักอิทธิบาทธรรม, โครงการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ |
URL Website | https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JIRFLAS |
Website title | https://so14.tci-thaijo.org/index.php/JIRFLAS |
ISSN | ISSN 3088-2265 (Online) |
Abstract | บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนวทางในการพัฒนาการขับเคลื่อนโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ การดำเนินการวิจัยใช้ระเบียบวิธีแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) โดยประกอบด้วย การวิจัยเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 184 คน โดยวิธีการสุ่ม เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามที่มีความเชื่อมั่น .981 และวิเคราะห์ด้วยสถิติ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ร่วมกับการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลจำนวน 21 รูป/คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า แนวทางการพัฒนาการขับเคลื่อนโครงการตามหลักอิทธิบาทธรรม ควรดำเนินการในลักษณะดังนี้ 1) ภาครัฐควรพิจารณาขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการจาก 3 เดือน เป็นอย่างน้อย 1 ปี หรือมากกว่า ทั้งนี้ เนื่องจากบางชุมชนยังไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมงานกับมหาวิทยาลัย จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน 2) ควรมีการจัดสรรงบประมาณอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกในโครงการได้พัฒนาศักยภาพและทักษะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่ความพร้อมในการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันในตลาดภายนอกได้ 3) ควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมของหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะภาคเอกชน ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การดำเนินงานตามกลไกของภาคเอกชน ตลอดจนการสนับสนุนด้านการตลาด เช่น การรับซื้อผลิตภัณฑ์ของชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมถุงการจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างชุมชน ภาคเอกชน และภาครัฐ ในการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุน |