การพัฒนาระบบการควบคุมคุณภาพและระบบการตรวจวิเคราะห์ Complete Blood Count และ Urine analysis งานโลหิตวิทยาและจุลทรรศนศาสตร์ สถาบันบำราศนราดูร
รหัสดีโอไอ
Creator ธฐมน ตาทอง
Title การพัฒนาระบบการควบคุมคุณภาพและระบบการตรวจวิเคราะห์ Complete Blood Count และ Urine analysis งานโลหิตวิทยาและจุลทรรศนศาสตร์ สถาบันบำราศนราดูร
Contributor คณิตา ทิพย์หมัด, จิรายุ ก้องเกียรติวงศ์
Publisher สถาบันบำราศนราดูร
Publication Year 2568
Journal Title วารสารสถาบันบำราศนราดูร
Journal Vol. 19
Journal No. 2
Page no. 76-87
Keyword การวางแผนการควบคุมคุณภาพ, การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด, การตรวจปัสสาวะ, สถาบันบำราศนราดูร, Quality Control Planning, Complete Blood Count Testing, Urinalysis, Bamrasnaradura Infectious Disease Institute
URL Website https://www.tci-thaijo.org/
Website title thaijo
ISSN E-ISSN 2673-0375
Abstract การพัฒนาระบบควบคุมคุณภาพในห้องปฏิบัติการมีความสำคัญต่อความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของผลการตรวจวิเคราะห์ งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพการควบคุมคุณภาพการตรวจ Complete Blood Count (CBC) และ Urine Analysis เพื่อรองรับระบบรายงานผลอัตโนมัติ (Auto Verification) ด้วยข้อมูล IQC และ EQA ระหว่างเดือนมกราคม 2567 ถึงเมษายน 2568 ผลประเมินเครื่องตรวจ Complete Blood Count ยี่ห้อ Mindray รุ่น BC-6200 จำนวน 14 รายการ ได้แก่ WBC, Hb, PLT, RBC, MCV, NEU, LYM, MON, EOS, BAS, HCT, MCH, MCHC และ RDW-CV พบค่า %CV เฉลี่ยลดลงจากช่วง 0.84–6.89 เหลือ 0.64–6.19 และค่า SDI เฉลี่ยลดลงจากช่วง -0.81–1.63 เหลือ -0.61–1.35 โดยทุกรายการมีค่า %Bias ไม่เกินค่า TEa ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เมื่อประเมินความสามารถการตรวจวิเคราะห์ด้วย Sigma Metric ใน 5 รายการ พบว่ามีประสิทธิภาพระดับดีเยี่ยม (Sigma ≥ 6) 3 รายการ ได้แก่ WBC, Hb และ PLT และในระดับดีมาก (Sigma ≥ 5) 2 รายการ ได้แก่ RBC และ MCV โดยเมื่อนำค่าไปทำ OPSpecs Chart พบว่าสามารถใช้ Westgard Rule ด้วยกฏ 13s สำหรับ WBC, Hb, และ PLT และกฎ 13s, 2of2s และR4s สำหรับค่า RBC และ MCV เมื่อนำกฎที่ได้มาใช้จริงในการควบคุมคุณภาพ พบว่าสามารถตรวจวิเคราะห์ได้ในระดับดีเยี่ยม (Sigma ≥ 6) ทั้ง 5 รายการ และสามารถใช้กฎ 13s กฎเดียวในการควบคุมคุณภาพได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสอดคล้องกับผลประเมิน EQA ที่มีค่า Z-score ลดลงอย่างต่อเนื่องสำหรับการตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะ (Urine Analysis) โดยเครื่อง LabMate2 จำนวน 10 รายการ ได้แก่ Specific gravity, pH, Leukocyte, Nitrite, Protein, Glucose, Ketone, Bilirubin, Urobilinogen, Blood และเครื่อง Urised2 จำนวน 2 รายการ WBC, RBC และSquamous epithelial cell พบว่ามีค่าเฉลี่ยของผลที่สอดคล้องกับค่าเป้าหมายจาก IQC เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 80.9 เป็น 95.4 และจากข้อมูล EQA เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 99.8 เป็น 100 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม ผลการศึกษานี้ได้นำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการพัฒนากฎ (Rules) และระบบตรวจสอบข้อมูล ส่งผลให้ลดระยะเวลาการรายงาน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองผลผิดปกติโดยผู้เชี่ยวชาญได้ดี
สถาบันบำราศนราดูร

บรรณานุกรม

EndNote

APA

Chicago

MLA

ดิจิตอลไฟล์

Digital File
DOI Smart-Search
สวัสดีค่ะ ยินดีให้บริการสอบถาม และสืบค้นข้อมูลตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) สำนักการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ค่ะ