![]() |
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง บวก ลบ คูณ หารเศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เทคนิค KWDL |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | กิตติพิชญ์ จันทรวีระกุล |
Title | การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง บวก ลบ คูณ หารเศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เทคนิค KWDL |
Contributor | ปวีณา ขันธ์ศิลา, ประภาพร หนองหารพิทักษ์ |
Publisher | Department of Strategics for Improving Education Quality, Surindra Rajabhat University |
Publication Year | 2567 |
Journal Title | วารสารราชภัฏสุรินทร์วิชาการ |
Journal Vol. | 2 |
Journal No. | 6 |
Page no. | 51-66 |
Keyword | การแก้โจทย์ปัญหา, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, เทคนิค KWDL |
URL Website | https://so10.tci-thaijo.org/index.php/jasrru |
Website title | วารสารราชภัฏสุรินทร์วิชาการ |
ISSN | ISSN 2822-0870 (Print), ISSN 2822-0889 (Online) |
Abstract | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดแบบฝึกทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง บวก ลบ คูณ หารเศษส่วน ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เทคนิค KWDL ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดแบบฝึกทักษะพัฒนาการแก้โจทย์ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้เทคนิค KWDL และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านหนองผ้าอ้อม จำนวน 13 คน ได้มาจากวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดแบบฝึกทักษะในการแก้โจทย์ปัญหา แบบประเมินคุณภาพแบบฝึกทักษะ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินความพึงพอใจต่อการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ ประสิทธิภาพ (E1 / E2) และ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัย พบว่า 1) ประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาในการทดลองกับกลุ่มเป้าหมายพบว่า มีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 74.44/73.84 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจมีต่อการจัดการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.92 ซึ่งมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด |