![]() |
ผลการพัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการจมน้ำในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดสุรินทร์ |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | พรรณรัตน์ เป็นสุข |
Title | ผลการพัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการจมน้ำในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดสุรินทร์ |
Contributor | มานะชัย สุเรรัมย์, จันทกานต์ วลัยเสถียร |
Publisher | สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง |
Publication Year | 2568 |
Journal Title | วารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง |
Journal Vol. | 10 |
Journal No. | 1 |
Page no. | 119-138 |
Keyword | รูปแบบ, ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, จมน้ำ |
URL Website | https://he01.tci-thaijo.org/index.php/iudcJ |
Website title | วารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง |
ISSN | ISSN 2985 - 1858 (print) ISSN 2985 - 1866 (online) |
Abstract | การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการจมน้ำ ในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดสุรินทร์ การศึกษาแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาสถานการณ์ความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากการจมน้ำ คำนวณกลุ่มตัวอย่างจากนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในพื้นที่อำเภอเสี่ยงสูง จำนวน 283 คน ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบและทดลองใช้ในโรงเรียนต้นแบบ โดยมีขั้นตอนการทำวิจัยซึ่งประยุกต์ใช้รูปแบบ PAOR คือ ขั้นวางแผนการดำเนินการ (Planning) ขั้นลงมือปฏิบัติ (Action) ขั้นสังเกต (Observation) และขั้นสะท้อนผล (Reflection) ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเจาะจง จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแนวคำถามในการสนทนากลุ่ม และระยะที่ 3 ประเมินผลรูปแบบฯ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเจาะจง จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามความรู้ ความรอบรู้และพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการจมน้ำ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติ Paired t-test ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า1. ความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันการจมน้ำของกลุ่มนักเรียน ในภาพรวม 5 ทักษะ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.05 มีคะแนนความรอบรู้ด้านสุขภาพอยู่ในระดับมีปัญหา รองลงมาเป็นระดับพอเพียง ร้อยละ 32.51 ระดับไม่พอเพียง ร้อยละ 16.25 และระดับดีเยี่ยม ร้อยละ 9.19 ตามลำดับ ควรสอดแทรกการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพไปกับกิจกรรมของโรงเรียน ได้แก่ การให้ความรู้ออนไลน์ รวมไปถึงการทำเทคโนโลยีเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ 2. รูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการจมน้ำ ในนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดสุรินทร์ มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) การคืนข้อมูลเพื่อร่วมวางแผน 2) การทำงานแบบบูรณาการในรูปแบบคณะทำงานจากทีมผู้ก่อการดีป้องกันการจมน้ำ 3) การสร้างและพัฒนาการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับเครือข่ายทีมผู้ก่อการดีป้องกันการจมน้ำ 4) การคัดเลือกพื้นที่โรงเรียนต้นแบบ 5) การติดตามประเมินผล โดยทำการทดลองใช้โปรแกรมการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า ภายหลังการทดลองใช้โปรแกรมกลุ่มตัวอย่างมีความรอบรู้และพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการจมน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) สรุปได้ว่า รูปแบบการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการจมน้ำสามารถพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันการจมน้ำได้ |