![]() |
การศึกษาความสัมพันธ์ของค่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังกับภาวะก่อนเบาหวานในผู้ป่วยที่มารับการรักษาในฝ่ายเวชศาสตร์ครอบครัวโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย |
---|---|
รหัสดีโอไอ | |
Creator | พรชัย อนิวรรตธีระ |
Title | การศึกษาความสัมพันธ์ของค่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังกับภาวะก่อนเบาหวานในผู้ป่วยที่มารับการรักษาในฝ่ายเวชศาสตร์ครอบครัวโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย |
Publisher | กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค |
Publication Year | 2565 |
Journal Title | วารสารควบคุมโรค |
Journal Vol. | 48 |
Journal No. | 4 |
Page no. | 862-874 |
Keyword | ภาวะก่อนเบาหวาน, ความหนาของผิวหนัง, เฮโมโกลบิน A1C, กลูโคสอดอาหารบกพร่อง, ไม่เป็นเบาหวาน, เบาหวาน |
URL Website | https://www.tci-thaijo.org/index.php/DCJ |
Website title | เว็บไซต์วารสารควบคุมโรค |
ISSN | 2651-1649 |
Abstract | การวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบตัดขวางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของค่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังกับภาวะก่อนเบาหวานหรือภาวะบกพร่องของน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยที่มีภาวะก่อนเบาหวานหรือภาวะบกพร่องของน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร และผู้ป่วยที่ยังไม่ได้เป็นโรคเบาหวานที่มารับการรักษาในฝ่ายเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยจำนวนทั้งสิ้น 1,056 คน ดำเนินการศึกษาระหว่างเดือนมีนาคม-สิงหาคม 2564 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และเครื่องมือวัดภาวะสุขภาพ ผลการศึกษาพบว่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังตำแหน่งด้านหลังแขนท่อนบนและสะบักหลังมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับภาวะก่อนเบาหวานหรือภาวะบกพร่องของน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารในเชิงบวก ค่าสัมประสิทธิ์ถดถอยพหุเท่ากับ 0.040 (p=0.018) และ 0.028 (p=0.024) ตามลำดับและพบว่าเมื่อค่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังตำแหน่งด้านหลังแขนท่อนบนและสะบักหลังเพิ่มขึ้น 1 หน่วยมิลลิเมตร (mm) จะส่งผลให้มีโอกาสของการเกิดภาวะก่อนเบาหวานหรือภาวะบกพร่องของน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร เพิ่มขึ้น 1.040 เท่า odds ratio 1.040 (95% CI 1.007-1.074) และเพิ่มขึ้น 1.028 เท่า odds ratio 1.028 (95% CI 1.004-1.054) ตามลำดับทั้งนี้ไม่พบความแตกต่างของค่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังตำแหน่งด้านหน้าแขนท่อนบนและบริเวณเหนือกระดูกสะโพกจึงเห็นว่าการวัดความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังตำแหน่งด้านหลังแขนท่อนบน และสะบักหลังมีประโยชน์ในการคัดกรองและป้องกันก่อนการเกิดโรคเบาหวานได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และยังสามารถเสริมการตรวจคัดกรองที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ |